"สมชัย" วิเคราะห์ท่าที 3 พรรค "ชาติไทยพัฒนา-ประชาธิปัตย์-รวมไทยสร้างชาติ"

อาจารย์สมชัย อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โต้ ไม่เห็นด้วยการที่นายกสั่งกระทรวงต่างประเทศยื่นหนังสือประท้วงทางการกัมพูชา หลังคลิปเสียงเจรจาหลุด ชี้เป็นการคุยด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ให้รัฐกับรัฐประท้วงกันมัน "ผิดฝาผิดตัว" หากอยากประท้วงให้ประท้วงเอง



นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ออกมาโพสต์ Facebook ส่วนตัวแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่กระทรวงการต่างประเทศประท้วงทางการกัมพูชาเรื่องการเผยแพร่คลิปการสนทนาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับ นายฮุน เซน เนื่องจากมองว่าเป็นการติดต่อส่วนตัวและการกระทำของนายฮุน เซน ไม่ใช่รัฐบาลกัมพูชา จึงอาจเป็นการประท้วงผิดฝ่าย ผิดฝา ผิดตัว โดยนายสมชัยอธิบายเป็นข้อไว้ในเฟซบุ๊ก มีข้อความว่า



1. การโทรติดต่อระหว่างผู้นำสองประเทศ เป็นการติดต่อกันเองแบบส่วนตัวระหว่าง Uncle กับ อิ๊งค์ ไม่มีการแจ้งให้ทางการไทยทราบ เพื่อช่วยในการกำกับเนื้อหาและท่าทีในการเจรจา



2. เมื่อเกิดปัญหา การที่ฮุนเซ็น นำคลิปมาเผยแพร่ เป็นการเผยแพร่โดยบุคคล รัฐบาลกัมพูชาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย การประท้วงจากรัฐบาลไปยังรัฐบาลอาจ "ผิดฝาผิดตัว"



3. นายกอิ๊งค์ ควรประท้วงด้วยตัวเอง โดยโทรไปต่อว่า Uncle ว่า ลุงแย่มาก นิสัยไม่ดี มาแอบอัดเทปตอนคุยกับอิ๊งค์ ต่อไปอิ๊งค์จะไม่โทรหาแล้ว พร้อมแอบอัดเทปตอนต่อว่า มาเปิดให้คนไทยฟัง หนามยอกเอาหนามบ่ง



4. การสนทนาควรเลือกล่ามแปลภาษาที่วางใจได้ และมีคนกลางที่รู้ภาษาเขมรร่วมฟัง ไม่เช่นนั้น ด่าไป ล่ามแปลเป็นไปชมแทน Uncle จะยิ้มหัวเราะอีก



5. ทำแบบนี้ คนไทยอาจให้อภัย



ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้พูดคุยกับนายสมชัย โดยอาจารย์ เสนอแนะทางออกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งหลักฐานที่ถูกเปิดเผยออกมาขนาดนี้ แม้จะอ้างเจตนาดี อยากให้ชายแดนสงบสุขหรืออย่างไรก็แล้วแต่ แต่คลิปเสียงการสนทนา 17 นาที เปลือยตัวตนของแพทองธาร ชินวัตร ได้ชัดเจนถึงการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของไทยที่ไปพูดบอกเผยไต๋ของตัวเองหมดทุกอย่างกับทางฝั่งตรงข้าม



หากปล่อยให้นางสาวแพทองธารยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อก็ไม่มั่นใจแล้วว่าจะมีการโทรศัพท์ไปคุยส่วนตัวและพูดเรื่องความในให้กับฝั่งตรงข้ามฟังอีกหรือไม่ แม้นายกจะออกมาแถลงแล้วว่าจะไม่มีการโทรศัพท์ไปคุยส่วนตัวอีกแต่ถามว่า จะเชื่อได้อีกหรือไม่ ซึ่งการยุบสภาไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่นายกรัฐมนตรีฯ ลาออก คือ ทางออกของระบอบประชาธิปไตยที่งดงามที่สุดแล้ว



นอกจากนี้นายสมชัย ยังได้โพสต์เฟสบุ๊ควิเคราะห์ท่าทีที่แตกต่างของ 3 พรรคร่วมรัฐบาล โดยระบุว่า "พรรคชาติไทยพัฒนา" จำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อความมั่นคงของประเทศ และมอบหมายให้หัวหน้าพรรคไปสอบถามข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



"พรรคประชาธิปัตย์" อยู่ร่วมรัฐบาลต่อ ให้หัวหน้าพรรคไปพบนายกฯ เพื่อปรึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดน โดยไม่มีการต่อรองตำแหน่ง และย้ำว่า คนไทยต้องรักกัน



"พรรครวมไทยสร้างชาติ" มีมติให้หัวหน้าพรรคไปแจ้งมติพรรค (รายงานข่าวว่า เพื่อขอให้นายกลาออก มิเช่นนั้นจะถอนตัว)



แปลความหมายแบบผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง



1. การมอบหมายหัวหน้าพรรคไปพบนายก คือ ต้องการให้มีการพูดคุยกับนายกเพื่อต่อรองบางอย่างก่อนตัดสินใจ



2. คำว่า ไปพูดคุยปัญหาความมั่นคง อาจไม่ใช่ความมั่นคงของชาติ แต่คือความมั่นคงในตำแหน่ง



3. คำว่า ไม่มีการต่อรองตำแหน่งใด ๆ หมายถึง แล้วแต่อีกฝ่ายจะให้ แต่ต้องไม่น้อยกว่าเดิม



4. มติของรวมไทยสร้างชาติ หากเป็นตามรายงานข่าวจริง เป็นมติเดียวที่สะท้อนจุดยืนทางการเมืองของพรรค ในขณะที่มติของอีกสองพรรค สะท้อนจุดยืนเพื่อประโยชน์ตัวเองของนักการเมือง



โดยอาจารย์สมชัย มองว่า เกมของพรรครวมไทยสร้างชาติถือว่ามา แบบเหนือชั้น ก่อนจะแถลงจุดยืน รอดูท่าทีของ 2 พรรคร่วมก่อน เพื่อที่พรรคตัวเองจะได้มีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CB2xPC2Jc5o