เลือกตั้งและการเมือง

แพ็กคู่เข้าทำเนียบรายงานตัว 'บิ๊กต่อ' ยันไม่น้อยใจถูกสั่งเด้ง 'บิ๊กโจ๊ก' ยิ้มรับ มาครั้งนี้เหมือนกลับบ้านเก่า

โดย paweena_c

21 มี.ค. 2567

47 views

เช้านี้ ทั้งบิ๊กต่อ และบิ๊กโจ๊ก เดินทางเข้าทำเนียบ รายงานตัวกับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต่างบอกว่า น้อมรับคำสั่งของนายกรัฐมนตรี 'บิ๊กต่อ' ยันไม่เครียด-ไม่น้อยใจ ถูกคำสั่งเด้ง ด้าน 'บิ๊กโจ๊ก' ยิ้มรับ มาครั้งนี้เหมือนกลับบ้านเก่า ย้ำขัดแย้งใน สตช.ต้องยุติ

โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลก่อน ประมาณ 9.40 น. เพื่อเข้ารายงานตัว ที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ช่วงขาเข้า ได้เดินหลบผู้สื่อข่าว ที่รออยู่บนบริเวณหน้าตึก โดยใช้อีกประตูเพื่อขึ้นไปยังห้องปลัดสำนักนายกฯ ทำให้สื่อมวลชนไม่เห็น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตอนเข้ารายงานตัว

ต่อมาเวลา 09.59 น. พล.ต.อ. สุรเชษฏ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็เดินทางมารายงาน ที่สำนักนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นรายงานตัวว่า การมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เหมือนได้กลับบ้านเก่า รู้สึกคุ้นชิน เพราะเคยอยู่ที่นี่มาถึง 2 ปี ไม่รู้สึกกดดันหรืออึดอัด

โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ มีบิ๊กโจ๊ก ยืนประกบข้าง ว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานจิตอาสาซึ่งตนทำอยู่แล้ว รวมถึงให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลชุมนุมต่างๆ ซึ่งตนจะเดินทางเข้ามาทำงานทุกวัน แต่ยังคงต้องเข้าเวรราชองครักษ์อยู่

ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบาย ไม่ให้มี แบ่งฝ่ายในสตช. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่า ตนพยายามสร้างตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปรับตำแหน่ง ว่า เราจะทำบ้านให้เปลี่ยนแปลง แต่ออกมาในลักษณะนี้ นายกฯจึงต้องเข้าไปจัดระเบียบ

ทั้งนี้ก็บอก ตนรับและยินดีอยู่แล้ว ไม่ได้คิดหรือกังวลอะไร อยู่ที่นี่ก็ดี เรื่องรับงานเอกสารตนก็ทำอยู่แล้ว ขออย่าห่วงว่าจะเครียดหรืออะไร

ช่วงนึงนักข่าว ถามว่า หนังสือย้ายเมื่อวานนี้ ใช่คำค่อนข้างรุนแรง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่า ตนยอมรับ ตนเป็นหัวหน้าหน่วย ทำให้องค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้ มันเป็นความบกพร่อง เมื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร ต้องกำกับดูแลในส่วนนี้ ตนยอมรับสภาพ คนรู้ ตนก็คาใจอยู่ ยังบอกกับบิ๊กโจ๊ก ว่า เราไม่ได้นั่งคุยกัน ตนพยายามทำสภากาแฟ ให้พี่น้องได้มาคุยกัน เป็นพี่เป็นน้อง ไม่ใช่เจ้านาย ไม่ใช่หัวหน้า ซึ่งก็โอเคในระดับหนึ่ง

และยืนยัน ว่าไม่ได้รู้สึกน้อยใจ แม้อายุราชการจะเหลือน้อย เพราะจะช้าหรือเร็ว อย่างไรก็ต้องลุก เป็นอะไรงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา

"โรงละครของเราเลิกแล้วก็เก็บฉาก เก็บเครื่องแต่งตัว ปิดไฟ หอบเสื่อกลับบ้านเรา ก็เท่านั่น ชีวิตเรามีเท่านี้"

จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์อีกรอบหลังรายงานตัว ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กระแสข่าวที่มองว่าใกล้ชิดกับคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องถึงออกมาเป็นเช่นนี้ ว่า ไม่เกี่ยว ส่วนการไปตอนนั้นเพื่อไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมย้ำว่าไม่มีเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวอะไรทั้งสิ้น แต่เรื่องนี้เป็นการแก้ไขของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหน่วย และย้ำว่าความขัดแย้งในสตช.ต้องยุติ

นักข่าวถามว่า คนมอง "บิ๊กโจ๊ก" มีชีวิตที่ 10 - 11 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยิ้ม และบอกว่า วันนี้ก็ทำหน้าที่ปกติ ส่วนรอบนี้จะเนเวอร์ดายหรือไม่ ตนไม่รู้ เพราะก็ทำหน้าที่ไปตามปกติตามที่ได้รับมอบหมาย

ทั้งนี้ภายหลังเข้ารายงานตัวเสร็จสิ้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พร้อมด้วยนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อไปดูห้องทำงานที่ชั้น 4 ภายในห้องศูนย์ประสานงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักงาน ก.พ.เดิม ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล

โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวติดตลกว่า "นี่เรายิ่งกว่าดาราอีกนะ วันนี้มาดูห้องทำงานจะเข้ามานั่งทำงาน" ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าจะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. เลยหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า "ตนติดราชการ 3 วัน ต้องดูภารกิจอื่นก่อน" จากนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้เดินมาสมทบ เพื่อเข้าไปพูดคุยโดยระบุว่าจะไปพูดถึงภารกิจอื่นที่ยังค้างอยู่ จากนั้นได้ไปดูห้องทำงานซึ่งอยู่ที่ชั้น3ของสำนักงาน ก.พ.เดิม

พูดถึงกรณีบิ๊กโจ๊ก มีในมุมของ ทนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ หนึ่งในทีมทนายความ เปิดเผยหลังจากที่บิ๊กโจ๊ก ประกาศจะถอนแจ้งความในทุกคดี ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการฟ้องดำเนินคดีกับลูกน้องของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ตั้งแต่บิ๊กโจ๊ก ถูกดำเนินคดีที่ขยายผลจากคดีเว็บพนันมินนี่ และ เว็บพนันบีเอนเค

โดยทนายวราชันย์ บอกว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องถอนแจ้งความ ทั้งในคดีที่บิ๊กโจ๊ก และ ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก ได้แจ้งความไว้ก่อนหน้านี้

หลังจากนี้ต้องรอบิ๊กโจ๊ก เรียกประชุมทีมทนายความว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตอนนี้มีคดีที่บิ๊กโจ๊ก และลูกน้อง แจ้งความพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และ ลูกน้อง รวมทั้งหมด 11 คดี

โดยแบ่งเป็นคดีหมิ่นประมาท 5 คดี ซึ่งใน 5 คดีนี้ มี 1 คดี ที่พ่วงแจ้งข้อหา ความผิดเกี่ยวกับ พรบ. คอมพิวเตอร์ไปด้วย ซึ่งบิ๊กโจ๊ก เป็นผู้แจ้งความทั้งหมด

ส่วนอีก 6 คดีที่เหลือ เป็นคดีเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก เป็นผู้แจ้ง ซึ่งตามกฎหมาย คดีหมิ่นประมาท สามารถถอนแจ้งความได้ทันที แต่คดีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเป็นคดีอาญา ต้องดูว่า ศาลจะพิจารณาให้ถอนแจ้งความได้หรือไม่



รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/2KZ32rXrvYA

คุณอาจสนใจ

Related News