‘เศรษฐา’ ยิ้มรับฉายา ‘เซลล์แมนสแตนด์ชิน’ ด้าน ‘ชาดา’ ฮัมเพลงหัวใจละเหี่ยรับฉายาจากนักข่าวทำเนียบฯ

สื่อทำเนียบฯ ให้ฉายารัฐบาล ประจำปี 2566 แกงส้มผลักรวม “เศรษฐา” ยิ้มรับฉายา “เซลล์แมนสแตนด์ ชิน” ขณะที่ “ชาดา” ฮัมเพลงหัวใจละเหี่ย รับฉายา “มาเฟียละเหี่ยใจ”

ข่าวการเมืองเป็นประจำทุกๆปี ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สื่อมวลชนสายการเมือง จะมีการตั้งฉายารัฐบาล กับ ฉายารัฐสภา กัน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล และสภา

วันนี้มีการเปิดเผย ฉายารัฐบาล ออกมาแล้ว จากสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ร่วมกันตั้งฉายา

โดยฉายารัฐบาล ปีนี้ คือ แกงส้ม "ผลัก" รวม

แกงส้ม หมายถึง การแกง พรรคก้าวไกล ฉีก MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน (คำว่าแกง เป็นศัพท์แสลง วัยรุ่นใช้ แทนคำว่า แกล้ง) ส่วนคำว่า "ผลักรวม" ล้อมาจากคำว่า "ผักรวม" ในเมนูแกงส้ม

เมื่อรวมกันแล้ว สะท้อนกระแสสังคมที่มองพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง ถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย และ ข้ออ้างทางการเมือง ส้มจึงหล่นใส่พรรคอันดับรอง กลืนน้ำลายจัดตั้งรัฐบาล "มีลุง" ก็ไม่เป็นไร เกิดวาทกรรม "ตระบัดสัตย์"

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับฉายา เซลล์แมนสแตนด์ "ชิน"

เป็นการสะท้อน ถึงการทำงานของ ท่านนายกฯ เข้ามาทำงาน เดินสาย โรดโชว์จีบนักลงทุนทั่วโลก ประกาศตัวเป็นเซลล์แมนเต็มรูปแบบ แต่ในทางการเมือง ยังถูกมองว่า ไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง เงาของคนในตระกูล "ชินวัตร" ยังปกคลุม เปรียบเสมือนตัวแสดงแทน หรือ สแตนด์อิน

ส่วน บรรดารัฐมนตรี ที่ได้รับฉายา ปีนี้ จากบทบาทที่โดนเด่น หนึ่งในนั้นคือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับฉายา มาเฟียละเหี่ยใจ

เนื่องจากเป็นนักการเมืองที่ถูกประทับตรามาเฟีย แต่เมื่อมาเป็นรัฐมนตรี กลับได้รับภารกิจปราบปราม "ผู้มีอิทธิพล" จนเป็นที่ฮือฮา แถมไม่นานมานี้ "ลูกเขย" นายชาดา ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ยังจับกุมในคดีกล่าวหารับสินบน จนตัวเองต้อง โชว์บทบาท สั่ง "ลูกเขย" ให้ยื่นใบลาออกทันที

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับฉายา รองกอง

เนื่องจากเป็นรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ที่ ต้องดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญการแก้ปัญหาประมง และงานในกระทรวง ปัญหาของแพง ต่างๆ ต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด

อีกท่านคือ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับ ฉายา พลิกทินสู่ดาว

จากอดีต เคยเป็นครู หลงใหลในดนตรีหมอลำ และผันตัวเข้าสู่แวดวงการเมือง จนได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ทั้งที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกองทัพ นอกจากความหมายของนามสกุล "คลังแสง" ขนาดเจ้าตัวยังไม่เคยนึกฝัน ว่าชีวิตนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

และคนสุดท้าย ที่ได้รับฉายา คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับฉายา ว่า ทวี สอดไส้

เนื่องจากการบริหารงาน ในช่วง 3 เดือนแรกถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร หลังเดินทางกลับมารับโทษ แต่ได้รับการส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ต้องนอนคุกแม้แต่คืนเดียว

นอกจากนี้ ยังมี วาทะแห่งปี ที่สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล ยกให้ คำพูดของนายกรัฐมนตรี ในวันที่เข้ารับตำแหน่ง ว่า "ผมจะทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย" เป็นวาทะแห่งปี

ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นคำพูดเท่านั้น แต่นักข่าวทำเนียบ ที่ติดตามภารกิจของนายกรัฐมนตรี พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตามนายกฯ 3 เดือนเหมือน 3 ปี ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่เจอหน้าก็มาทางโซเชียล ดึกๆ ก็ยังโพสต์ประเด็นร้อนต่างๆ ได้ทันใจ

ล่าสุด นายกรัฐมนตรี ตอบสั้นๆ ก่อนเข้าประชุม ครม. หลังสื่อตั้งฉายา ให้รัฐบาล บอกว่า เห็นแล้ว ไม่ได้มีอะไร ก็เข้าใจ ว่าทุกปี ต้องมีการตั้งฉายากัน แต่ก็ไม่ได้ให้ความเห็นถึงรายละเอียดของฉายา นายกฯ ยังคงยิ้มแย้ม

ส่วนรัฐมนตรี ชาดา ไทยเศรษฐ์ ก็บอกว่าไม่ถือสาอะไร เป็นเรื่องธรรมดา ที่สื่อตั้งฉายาให้ พร้อมกับ ร้องเพลง "หัวใจระเหี่ย" ของ มาลีฮวนน่า ให้สื่อมวลชนฟังด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/EIdLHy2CYSY