‘พิธา’ รับเดิมพันสูง ขอสู้ยิบตาแรงสกัด ไม่ให้เป็นนายกฯ ฝาก 4 ประเด็น ถึง สว.วอนยึดมติ ปชช.

จับตาวันชี้ชะตา ‘พิธา’ กับการเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ ลุ้นตั้งแต่ด่านแรกว่าจะเสนอชื่อในการโหวตรอบ 2 ได้หรือไม่ เช้านี้ ‘พิธา’ รับเดิมพันสูง แต่ขอสู้ยิบตากับแรงสกัด

เช้าวันนี้ (19 ก.ค. 2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ก่อนร่วมประชุมรัฐสภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพยายามเต็มที่ และขอสู้ยิบตา แม้ต้องเจอ 4-5 ด่านในการสกัดกั้นเป็นนายกรัฐมนตรี

นายพิธา กล่าวว่า ยอมรับวันนี้เดิมพันสูงมาก จากความพยายามตีความข้อบังคับที่ 41 ไม่ให้สามารถเสนอชื่อซ้ำ ซึ่งยืนยันว่าการเสนอชื่อนายกฯ อยู่ในหมวดเฉพาะ ข้อบังคับญัตติทั่วไปไม่สามารถบังคับได้ ดังนั้นหากที่ประชุมมีมติไม่ให้เสนอชื่อซ้ำ มองว่าเหมือนโดนมัดมือชก และจะเป็นบรรทัดฐานกับทั้งตัวเองและพรรคอันดับ 2-3-4 ซึ่งจะกลายเป็นระบบแบบนี้ไปโดยปริยาย

นายพิธา กล่าวอีกว่า ถ้ามีความแปลกขนาดนั้น ที่พรรคอันดับ 1 ต้องไปเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จึงอย่าให้เรื่องนี้เป็นของผมคนเดียว แต่เป็นของประชาชนทุกคน และประเทศชาติ

นอกจากนี้ นายพิธายังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “4 ประเด็น ถึง ส.ว.” โดยเนื้อหา ไล่เรียง 1.ภายในสถานการณ์ปกติ ในรัฐธรรมนูญของนานาอารยประเทศ วันนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะผ่านการเลือกตั้งมาเกิน 2 เดือนแล้ว รัฐบาลร่วมของ 8 พรรคได้ 312 เสียง ถือเป็นเสียงข้างมากในสภา มีผมเป็นนายกรัฐมนตรี คงหน้าดำคร่ำเครียดแก้ปัญหาให้ประชาชนอยู่

แต่เรายังต้องอยู่กันแบบนี้ในวันนี้ ก็เพราะรัฐธรรมนูญนี้ ผมต้องมาขอความเห็นชอบจากท่าน เพื่อเข้าไปบริหารประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชน

2.ย้อนเมื่อปี 2562 ส.ว.249 จาก 250 คน เห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลโหวตให้เสียงข้างมากในสภาล่าง ดังนั้นในวันนี้ ขอวิงวอนยึดถือหลักการตามที่ท่านให้เหตุผล ไม่ได้ทำไปด้วยเหตุอื่น โปรดโหวตให้นายกรัฐมนตรี ที่เป็นตัวแทนของเสียงข้างมากจากประชาชน

3.กรณี ส.ว.ที่โหวตไม่เห็นชอบ ให้เหตุผลว่าพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี มุ่งทำลายสถาบัน ก็ถามว่าการทำแบบนี้ส่งผลดีต่อสถาบันหลักของชาติอย่างไร

และ 4.สถานการณ์การเมืองวันนี้ อาจเรียกว่า “ฝุ่นตลบ-มืดมน-ไม่รู้เหตุการณ์จะไปทิศทางไหน” ท่านจะตัดสินใจอย่างไรให้ถูกต้องและพาชาติพ้นจากวิกฤต

นายพิธา กล่าวว่า ท่านตัดสินใจโหวตตามหลักการและโหวตตามเสียงประชาชน รับใช้ประชาชน ผมรับรองว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ชื่อของท่านจะถูกจารึกไว้บนแผ่นดินนี้อย่างมีเกียรติ เป็นที่ภาคภูมิใจของลูกหลาน

นอกจากนี้ นายพิธา ยังโพสต์ไอจี เป็นภาพกอดกับลุกสาว พร้อมข้อความระบุว่า “โชคดีค่ะคุณพ่อ” และ “ขอบคุณครับคุณลูก พ่อจะพยายาม”

ด้าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมรัฐสภา ก็ย้ำไม่มีแผนสำรอง หากคุณพิธา ได้เสียงไม่ถึง 376 เสียง และยืนยันจะไม่มีการเสนอชื่อ คุณเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย หากที่ประชุมมีมติไม่ให้เสนอชื่อซ้ำ บอกว่าขอให้เป็นเรื่อง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และพรรคก้าวไกล แถลงให้ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ด้านท่าทีของพรรคการเมืองอื่นๆ อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พูดถึงการประเมินถึงสถานการณ์ โหวตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 วันนี้ จะสามารถทำได้หรือไม่ว่า ขอฟังตอนเข้าห้องประชุม เพื่อหารือถึง ทุกฉากทัศน์ที่เกิดขึ้น จนมีข้อสรุปก็อวยพรพรรคจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ทำให้สำเร็จ

ส่วนกรณีที่มีชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน มองอย่างไรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ละพรรคก็มีแคนดิเดตนายกฯ ของเขา แต่ละคนก็มีความเหมาะสมของแต่ละพรรค เราไม่มีสิทธิ์ไปพูดว่าคนนั้นคนนี้ไม่เหมาะ ทั้งนี้พูดชัด หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สำหรับภูมิใจไทยไม่เอาด้วย หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมรัฐบาล

ขณะที่นายธนากร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังยืนยันในหลักการเดิม คือ ไม่เห็นชอบให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีแนวคิดแก้ไขมาตรา 112 และย้ำว่าเมื่อวาน (18 ก.ค. 2566) พรรครวมไทยสร้างชาติ มีมติไปแล้ว เห็นว่าไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาในการโหวตซ้ำได้

ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากมีการสลับขั้วและพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลว่า เอาให้ถึงเวลานั้นก่อน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่ย้ำว่าจุดยืนยันของพรรคไม่ร่วมกับพรรคที่สนับสนุนแก้ไขมาตรา 112

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/7u-cmfZwpNk