รวมบรรดานักร้อง กกต.เรียก 'เรืองไกร-สนธิญา' เข้าให้ถ้อยคำ ปมร้องสอบ 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ

จับตาประเด็นการตรวจสอบ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณี ถือหุ้นสื่อไอทีวี ว่าเข้าข่าย ขาดคุณสมบัติหรือไม่ จะซ้ำรอยกรณีของคุณธนาธร หรือเปล่า

เช้าวันนี้ สำนักงาน กกต. ได้เชิญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต. แล้ว กรณียื่นเรื่องขอให้ กกต. ตรวจสอบการถือหุ้น ไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าเข้าข่ายเป็นการถือหุ้นสื่อมวลชน ที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งการเข้าให้ถ้อยคำกับ กกต. วันนี้ คุณเรืองไกร ได้ยื่นเรื่องเพิ่ม ขอให้ กกต. พิจารณาเพิ่มว่าการถือหุ้นสื่อของ คุณพิธา เข้าข่ายต้องดำเนินคดีอาญา ด้วยหรือไม่ หากมีลักษณะต้องห้ามมาตั้งแต่ต้น ว่าขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 วงเล็บ 3 ซึ่งส่งผลกับความเป็น ส.ส. มาตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ด้วย

กรณีนี้เคยมีคำวินิจฉัย ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ที่ถือหุ้นสื่อ แล้วขาดคุณสมบัติ ทำให้ กกต. สั่งดำเนินคดีอาญากับ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ท่านหนึ่ง มาแล้ว จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบย้อนกลับไปว่า กรณีที่ คุณพิธา ถือหุ้นไอทีวี เท่ากับขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่การเลือกตั้ง ปี 2562 หรือไม่

การตรวจสอบ กรณีถือหุ้นไอทีวีของ คุณพิธา ตอนนี้ ทาง กกต. แจ้งว่าอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณา ว่าจะรับคำร้อง หรือไม่ ซึ่งถ้ารับคำร้อง กกต. ก็จะดำเนินการใต่ส่วนไปตามกระบวนการต่อไป และจะเชิญทั้งผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหามีชี้แจงอีกครั้ง ก่อนพิจารณาว่าจะส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่

นอกจากคุณเรืองไกร แล้วยังมีคนร้องเรื่องนี้ อีก 3 คน คือ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 นายสนธิญา สวัสดี และนายศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งวันนี้นพรุจกับสนธิญา กกต. เรียกมาให้ถ้อยคำด้วย

ส่วน คุณศรีสุวรรณ ตอนนี้ยังไม่มีการเชิญ แต่มีรายงานว่า กกต. จะเรียกมาในสัปดาห์ นี้เหมือนกัน ยังต้องติดตามกัน เพราะตอนนี้เป็นที่จับตาว่า เหตุการณ์ จะซ้ำรอย ปี 2562 หรือไม่

ตอนนั้น ถ้าจำกันได้ ตอนนั้น คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค ได้เข้าไปนั่งในสภาได้เพียงไม่กี่นาที ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภา เมื่อปี2562

ก่อนจะต้องออกจากห้องประชุมไป เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังรับคำร้องของ กกต. ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยคุณสมบัติของคุณธนาธร ว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ เนื่องจากตอนนั้น มีกรณีที่คุณธนาธร ถือหุ้นสื่อนิตยสาร บ. วี-ลัค มีเดีย จำกัด

แต่สถานะ ของคุณธนาธร เรียกได้ว่าเป็นเจ้าของกิจการ มีหุ้นรวมกับภรรยาก่อนเลือกตั้ง มากถึง 900,000หุ้น คิดเป็น 20% แตกต่างจากกรณีของคุณพิธา มีหุ้นไอทีวีในฐานะผู้จัดการกองมรดก 42,000 หุ้น คิดเป็น 0.0035% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ซึ่งนักวิชาการด้านกฎหมายหลายท่าน อย่าง อ.ปริญญา เทวนฤมิตรกุล ก็มองว่าสัดส่วนการถือหุ้นของคุณพิธา น้อยมาก ไม่มีอำนาจไปครอบงำสื่อมวลชนได้ ได้ทั้งยังมีประเด็นที่ถกเถียงกัน ว่า ตกลง ไอทีวี ยังเป็นสื่อมวลชนอยู่หรือไม่ เพราะยุติการดำเนินกิจการไปแล้ว และยังมีกรณีที่ คุณพิธา ถือหุ้นในฐานะ ผู้จัดการกองมรดกอีก เป็นประเด็นที่ต้องจบตากัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/u4Dv-iebJVQ