เช็กขั้ว ส.ว. 6 สาย หนุนฝ่ายไหนบ้าง พร้อมเปิดชื่อ ส.ว.ไม่หนุน ‘พิธา’ - งดออกเสียง

การเมืองยังคงจับตาถึงท่าที่การจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล ที่สังคมกำลังตั้งคำถาม ส.ว. ว่าจะโหวตให้ ‘พิธา’ หรือไม่ เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่รวมเสียงได้เกินครึ่งของที่ประชุม ส.ส. แล้ว

ความคืบหน้าเมื่อวาน (16 พ.ค. 2566) ทางพรรคก้าวไกล โดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และเป็นคนที่นายพิธา หัวหน้าพรรค มอบหมายให้เป็นตัวแทนในการประสานงานจัดตั้งรัฐบาล มีการไปพูดคุยอย่างเป็นทางการ 2 พรรคแล้ว คือ พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย แต่รายละเอียดยังไม่มีการเปิดเผยออกมา เพราะยังอยู่ในกระบวนการพูดคุยต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้ (17 พ.ค. 2566) ก็จะมีการนัดพูดคุยกันอีกในช่วงเย็น ขณะนี้ยังรวมเสียงกันได้อยู่ที่ 310 เสียง ยังไม่มีเพิ่มเข้ามา

ประเด็นที่ชัดเจนของพรรคก้าวไกล คือนอกจากจะคุยกันในกลุ่มฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว 310 เสียง แล้ว อาจจะต้องไปขอเสียง ส.ว. มาช่วยสนับสนุนด้วย โดยนายชัยธวัช มองว่า ส.ว.ไม่ได้เอกภาพทั้งหมด มีคนที่พร้อมจะโหวตให้เสียงข้างมากของ สภา ส.ส.อยู่

พรรคก้าวไกลจึงพร้อมจะหารือแลกเปลี่ยน ซึ่งจะติดต่อเข้าไปพูดคุยแน่นอน เชื่อว่าการพูดคุยกันก่อนจะเป็นประโยชน์ที่สุด เพราะความกังวล ไม่สบายใจของ ส.ว. อาจจะเป็นการคิดอยู่ฝั่งเดียว หากได้พูดคุยกันแล้วก็คงจะคลายกังวลกัน

แน่นอนว่า ตอนนี้ต้องมีเสียง ส.ว. มาช่วยโหวต แต่ต้องใช้เสียง ถึง 66 เสียง (เพราะตอนนี้ได้เพียง 310 เสียง ต้องได้ 376 เสียง) นายพิธา ถึงจะได้เป็นนายกฯ

ด้านขุมกำลัง ส.ว. จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ส.ว. มี 6 สาย และแต่ละสายจะมีท่าทีหนุนคนต่างกัน

- กลุ่มแรกมีประมาณ 60 คน ให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

- ส.ว.สายลุงป้อม กลุ่มนี้มีประมาณ 80 คน ให้การสนับสนุน พล.อ.ประวิตร

- ส.ว.กลุ่มบ้านใหญ่ เช่น พวกกลุ่มการเมืองต่างๆ กลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 50 คน กลุ่มนี้ปกติจะยกมือสนับสนุนหัวหน้าพรรค บ้านใหญ่ หรือกลุ่มที่ตัวเองสังกัดอยู่

- ส.ว.สายแป๊ะ หรือ กลุ่มที่ใกล้ชิดกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มีอยู่ประมาณ 25 คน ปัจจุบัน ส.ว.สายแป๊ะ วิ่งหา พล.อ.ประวิตร เพราะกลุ่มนี้จะดูกระแสประชาชนด้วยเช่นกัน กลุ่มนี้ มีโอกาสสูงที่จะโหวตให้ เสียงข้างมากของ สภา ส.ส. เพราะเป็นกลุ่มนักวิชาการองค์กรอิสระเก่า

- กลุ่ม ส.ว.ไพ่ฝาก ส.ว.เด็กฝากของผู้หลักผู้ใหญ่ มีอยู่ประมาณ 20 คน เป็นกลุ่มที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ว่าจะสนับสนุนใคร ขึ้นอยู่ว่าเป็นเด็กฝากของใคร

- กลุ่ม ส.ว.สายข้าราชการประจำ มีประมาณ 15 คน เช่น คนที่เรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) มีทั้งที่อยู่ในสังกัด พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ อย่าง พล.อ.ประยุทธ จะมีฐานของ วปอ.รุ่น 57 กลุ่มนี้ รวม ผบ.เหล่าทัพ ที่ประกาศตัวชัดเจนแล้ว ว่าจะงดออกเสียง

ส่วน ส.ว. ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่า จะไม่โหวตให้นายพิธา ก็จะมี ส.ว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.จเด็จ อินสว่าง 2 ท่านนี้ยืนยันในหลักการ ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข มาตรา 112 ที่จะไปกระทบต่อสถาบันฯ และรับไม่ได้กับเรื่องนี้

ส่วน ส.ว. ที่มีความเห็นก้ำกึ่ง ยังไม่ตัดสินใจชัดเจน ขอรอดูหน้างานก่อนว่า นายพิธาจะจัดตั้งรัฐบาลได้จริงไหม เพราะยังติดใจเรื่องประเด็นคุณสมบัติของนายพิธา เรื่องถือหุ้นสื่อ รวมถึงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ก็จะมี ส.ว.วันชัย สอนศิริ ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์ และ ส.ว.สมชาย แสวงการ

ส่วน ส.ว. ที่ ไม่บอกว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่จะงดออกเสียง อ้างว่าปิดสวิตช์ตัวเอง ก็จะเป็นกลุ่ม ผบ.เหล่าทัพ 6 ท่าน ที่มาโดยตำแหน่ง มี

- พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม

- พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)

- พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

- พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ. อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)

- พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

กลุ่มนี้ถ้ามีประเด็นการเมือง ก็จะไม่ร่วมยกมือโหวตอยู่แล้ว แต่ผลของการงดโหวต ก็จะทำให้มีค่าเท่ากับไม่เห็นด้วย กับการเลือกนายพิธา

เช่นเดียวกับแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ มีท่าที่จะงดออกเสียง ปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ก็ขอตัดสินใจหน้างานอีกครั้ง โดยเมื่อวานนี้ คุณหญิงหมอกล่าวในรายการโหนกระแสกรณีที่อาจารย์ปริญญา เทวนฤมิตรกุล ถามว่า มี ส.ว.เพื่อที่จะปฏิรูปประเทศ แล้ว 4 ปีที่ผ่านมา ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากเห็นและประชาชนอยากเห็น คือการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตอนนี้มันไม่เดิน ซึ่งเรามามองภาพรวมก่อนการเลือกตั้งใหม่ ทุกคนก็ด่าๆ แต่เรามองในองค์รวมคือ ไม่ควรมี ส.ว.เลือกนายกฯ และนักวิชาการก็เห็นด้วย และพอมาเลือกตั้งเป็นแบบนี้ ทุกคนกลับบอกว่า ให้หมอพรทิพย์โหวตคนเดียว มันไม่ถูก เพราะโดยระบบมันไม่ควรมี แล้วอยู่ๆ ทำไมเราจะเลือกคนที่เรายังไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรบ้าง พรรคมั่นคงหรือไม่ ประเทศชาติ จะล่มสลายไหม แต่เรายังคงหลักการเดิม

นอกจากนี้ คุณหมอพรทิพย์ กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นคนนอกคอก คุยกับใครเขาก็ไม่พูดกับเรา เช่น ทำไม 2 ลุง ต้องแยกกัน ก็ไม่มีใครคุยด้วย ณ วันนี้ เธอยังคงปิดสวิตช์ ส.ว.แต่ถ้าถึงวันนั้นก็ว่ากัน ถ้ามองในเชิงภาพรวม ไม่ใช่เพราะกระแสกดดัน ยิ่งกดดัน เธอยิ่งไม่ทำ เพราะเธอไม่ทำตามกระแส มองว่านายกฯที่จะมา พรรคและนโยบาย ต้องทำให้ประเทศรอด ไม่ใช่กลับไปเหมือนเดิม

เมื่อบอกว่าตอนนี้ พิธา คือคนที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เป็นประชามติ จะให้คุณหญิงยกมือได้ไหม คุณหญิงบอกว่า ในเบื้องต้น การที่คุณพิธาหรือก้าวไกลได้ เธอก็เคารพและเป็นสัญญาณที่ดีของประเทศ ที่จะเป็นการเมืองแบบใหม่ที่ไม่มีนายทุนพรรค แต่จะไปถึงวันนั้นแล้วจะโหวตได้ไหม ตอบไม่ได้ เพราะนโยบาย 10 กว่าข้อ เราไม่ได้รับได้หมด ส.ว.บางท่านอาจจะเห็นด้วย เราทำงาน เราอยู่บนธรรมะ ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้ถึงวันนี้ และธรรมะกับความมั่นคงของแผ่นดิน คือสถาบันพระมหากษัตริย์ มันชัด การที่เขาไม่ชัดตรงนี้ ก็ดูสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ละคน เรามีหน้าที่ทำให้ประเทศอยู่รอด แต่ไม่ได้หมายถึงการโหวตกับไม่โหวต

ประเด็นของการปิดสวิตช์ตัวเองของ ส.ว. ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การงดออกเสียงของ ส.ว.เท่ากับเป็นการไม่เอาพรรคก้าวไกล ที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะตามกติกาในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ยังต้องโหวตในที่ประชุมร่วมรัฐสภา และต้องใช้เสียงข้างมากของที่ประชุมร่วมรัฐสภา คือ 376 เสียงขึ้นไป ถ้างดออกเสียง ก็มีค่าเท่ากับไม่เห็นด้วย

ขณะที่การรวมเสียงของพรรคก้าวไกล ตอนนี้ อ.ปริญญา ใช้คำว่า พรรคก้าวไกล ต้องมาหาเสียงกันรอบสอง จากรอบแรกที่หาเสียงนอกสภาเข้ามาได้แล้ว คราวนี้ต้องหาจาก ส.ว.อีก ถ้าไม่ได้ ก็ต้องไปขอเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน อย่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย

กรณีของพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นไปได้ เพราะเป็นพรรคที่ยึดมั่นในหลักการและที่ผ่านมาก็ยืนยันไม่เห็นด้วย กลับการให้ ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการขอเสียงเพิ่มจากพรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นไปได้ และจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนอีกครั้ง จากเดิมที่เคยยกมือโหวตให้กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

รับชมทางยูทูบที่ :https://youtu.be/IX1V1ied4sU