เลือกตั้งและการเมือง
ก้าวไกล นัดเคลียร์ดรามาชิงเก้าอี้ ปธ.สภา 30 พ.ค.นี้
27 พ.ค. 2566
120 views
ประเด็นทางการเมือง ยังจับตาถึงท่าทีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี และตำแหน่งประธานสภา ของว่าที่รัฐบาลก้าวไกล หลังมีดราม่าแย่งชิงเก้าอี้ ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ล่าสุดมีการนัดหมาย จะเจรจากัน ในวันที่ 30 พ.ค. นี้ ที่พรรคประชาชาติ
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรก้าวไกล เปิดเผย ถึงความคืบหน้าในการเจรจาผู้รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรในพรรคร่วมจัดจั้งรัฐบาล ว่าจะมีการหารือกันในวันอังคารที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 14.30 น. ที่ทำการพรรคประชาชาติ
ซึ่งเป็นไปตามที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เน้นย้ำว่าขอให้พรรคร่วมไปหารือกันภายใน และเจรจาในวงเล็ก รวมถึงการวางแนวทางการทำงานล่วงหน้า ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบตรงไหน สำหรับการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเป็นทางการ
ส่วนตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคก้าวไกล บอกว่าจะมีการหารือกันหลังจากนี้เช่นกัน ยอมรับว่า ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะมีการทาบทามคนนอกเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเป็นปกติในทุกรัฐบาล ที่จะเชิญคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการบริหาร โดยไม่ได้มีปัจจัยเรื่องของอายุเพียงอย่างเดียว
และยืนยันว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลยังไม่ได้คุยกันว่าใครจะดำรงตำแหน่งอะไร และเชื่อว่าในพรรคร่วมอื่นๆ อีก 7 พรรคก็ยังไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ เพราะอาจจะเร็วเกินไป
ซึ่งในเรื่องของ ตำแหน่งประธานสภา วันนี้ มีความเห็นจากอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และเป็นว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ด้วย คุณสุชาติ ตันเจริญ
คุณสุชาติ บอกว่า การอ้างว่าเป็นประเพณีที่พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 จะได้รับตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงเสียทีเดียว เพราะในประวัติศาสตร์มีหลายครั้งที่ประธานสภาฯ ไม่ได้มาจากพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากที่สุด
ที่ผ่านมาทุกสมัย ประธานสภาฯ จะมาจากการเลือกของเพื่อน ส.ส.ในสภาฯ ไม่ใช่พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นผู้เลือก และจากแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภา ก่อนหน้านี้ อาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้ว่าประธานสภาสามารถใช้ดุลยพินิจเกี่ยวกับการตรากฎหมายได้
ทั้งที่ ประธานสภาฯ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางตามกรอบที่รัฐธรรมนูญ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือบรรจุวาระตามอำเภอใจ แม้จะเป็นการเสนอกฎหมายโดยพรรคของตัวเอง ก็ต้องดำเนินการไปตามลำดับ จึงอยากให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสภาฯ หรืออำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ
