เลือกตั้งและการเมือง

ดร.สิริพรรณ ชี้ “บิ๊กป้อม” มีโอกาสนั่ง นายกฯ หาก “บิ๊กตู่” ไม่รอด

โดย panisa_p

29 ก.ย. 2565

188 views

รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี  อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ถึง ทิศทางการเมืองไทย จากคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญ ปมวาระ 8ปี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  ทั้งในมุมที่พ้นจากตำแหน่ง  แต่กรณีไม่พ้นจากตำแหน่ง


โดยกรณี พลเอกประยุทธ์ ไม่พ้นจากตำแหน่ง  ดร.สิริพรรณ ชี้ว่า   พลเอกประยุทธ์ ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป แต่จะเกิดแรงกระเพื่อมในฝั่งรัฐบาลด้วยกันเอง โดยเฉพาะ ในพรรคพลังประชารัฐ และการมีพรรคใหม่ ที่จะเข้ามาสนับสนุนพลเอกประยุทธ์แทน  ก็จะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อที่พลเอกประยุทธ์  จะสามารถทำหน้าที่ได้ไปจนครบวาระ ในปี 2566 


โดยอาจจะไม่มีการยุบสภา ตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง เพราะมีหมุดหมาย ที่จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคได้อย่างภาคภูมิ รวมถึงเป็นหนึ่งไปประวัติศาสตร์ของการเลือกตั้งในการทำหน้าที่รัฐบาลอยู่ครบวาระแบบรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ในอดีต


ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง  ดร.สิริพรรณ เชื่อว่ามีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่โอกาสจะจุดติดเป็นไปได้อยาก เพราะเป็นช่วงที่รู้อยู่แล้วว่าอยู่ในช่วงที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในปี2566 อีกทั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้านอาจจะไม่ออกมาสนับสนุนการประท้วงเพราะต้องการให้อยู่ในกติกาทางการเมือง ไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไข ของการรัฐประหาร  อีกทั้งฝ่ายค้ายยังหวังด้วยว่าจะมีโอกาสที่จะชนะเลือกตั้งครั้งหน้า




แต่หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าพลเอกประยุทธ์ไม่รอด รัฐบาลทั้งคณะก็กลายเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ  โดยที่พลเอกประยุทธ์ อาจจะไม่เลือกเป็นนายกฯรักษาการ  พลเอกประวิตรก็จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป จนกว่าจะมีกว่าสภาจะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งมีโอกาสที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีพรรคการเมืองได้สูง เพราะมีบทบาทคุมเสียงส่วนใหญ่ ในวุฒิสภา


แต่พลเอกประวิตร มีแนวโน้มที่จะทำหน้าที่ไปเพียงระยะหนึ่ง และจะยุบสภาเมื่อพรรคพลังประชารัฐพร้อมสู่การเลือกตั้งเพื่อให้เกิดการขยับขยายทางการเมือง หากพรรคพลังประชารัฐมั่นใจในเสียงของบ้านใหญ่  ทำให้การเลือกตั้งอาจเกิดได้ไวขึ้นได้


อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร  ดร.สิริพรรณ  ยังกังวลถึงสถานการณ์ที่จะเกิดจากปัญหาของกติกาในการเลือกตั้ง ที่จะนำมาสู่สุญญากาศทางการเมืองได้ หาก ร่างกฎหมายเลือกตั้งที่อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญตอนนี้ มีปัญหาบังคับใช้ไม่ทันเดือน ต.ค. นี้ทิศทางการเลือกตั้งอาจจะสะดุดลง  เพราะอย่าลืมว่า  ภายใต้กติกาสูตรหาร 100  บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคพลังประชารัฐไม่ได้เปรียบ ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจะยอมเสี่ยงเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ที่ตัวเองไม่มีโอกาสชนะหรือไม




ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างกฎหมายเลือกตั้งสูตรหาร 100 และสูตรหาร500 ผิดรัฐธรรมนูญทั้งคู่ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะจะนำไปสู่การแก้รัฐรรมนูญอีกรอบซึ่งจะใช้เวลานานและจะไม่ทันไทม์ไลน์เลือกตั้งที่ กกต. กำหนด ในขณะที่สภาก็ครบวาระ แต่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้  จะเกิดสุญญากาศทางการเมืองโดยตั้งใจ ที่รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้มีบทบัญญัติให้ตีความไว้ได้ และจะกลับไปสู่อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญอีกรอบ เพื่อเป็นข้ออ้างชะลอการเลือกตั้ง


คอลัมน์ : ใต้เตียงการเมือง

คุณอาจสนใจ

Related News