เลือกตั้งและการเมือง

‘สนธิญา’ ลั่น ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ไม่จริงใจต่อกัน กราบเรียนไม่ได้เสี้ยม ถ้าเสี้ยมได้ก็เสี้ยม

โดย JitrarutP

22 พ.ค. 2566

141 views

วันที่ 22 พ.ค. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน, รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และ รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย ม.รังสิต และ อดีต กกต. ถึงกรณีการจัดตั้ง “รัฐบาลก้าวไกล”

นายสนธิญา สวัสดี เผยในรายการโหนกระแส หลังไปเร่งรัดให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยตนเชื่อว่า “พรรคก้าวไกล” จะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะเรื่องหุ้นไอทีวี ที่นายพิธาถือครอง อีกทั้งเรื่องการแก้ไข ม.112 ที่ขณะนี้สมาชิกวุฒิสภาหลายคนไม่เห็นด้วย

ขณะที่ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย ให้ความเห็นเพิ่มเติมกรณีหุ้นสื่อว่า อาจไม่น่ากังวลมากนัก เพราะแนววินิจฉัยของศาลฎีกา และศาลรัฐธรรมนูญ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญคือป้องกันการใช้สื่อครอบงำความคิด หรือสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในทางการเมือง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกา วางหลักไว้ชัดว่าบริษัทไหนที่ถือว่าครองหุ้นสื่อไหม ให้ดูว่ารายได้ของบริษัทนั้นยังมีจากการทำกิจการสื่อไหม บางบริษัทจดทะเบียนไว้ ยังไม่สิ้นสภาพนิติบุคคล อย่างกรณีไอทีวี เขาเลิกกิจการมาสิบกว่าปีแล้ว ไม่มีรายได้จากตรงนั้นแล้ว

ทำให้ นายสนธิญา ตอบกลับไปทันทีว่า “ผมกราบเรียนคนทั้งประเทศว่าถึงขณะนี้ผมไม่เชื่อว่าก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลได้ ผมกราบเรียน กรณีการถือหุ้นสื่อ แม้อาจารย์จะกราบเรียนยังไงก็ตาม กราบเรียนเรื่อง ลับลวงพราง ม.112 ส.ว.ส่วนมากเขาไม่เอาด้วย ม็อบทุกส่วนจัดกันได้หมด เป็นระบอบประชาธิปไตย”

ด้าน อ.สมชัย ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในเชิงเลวร้าย เราควรส่งกำลังใจให้พรรคการเมืองที่ได้เสียงมากที่สุดในการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลด้วยวิถีประชาธิปไตย กรณีที่นาย สนธิญา ไปให้สัมภาษณ์ว่า หาก ส.ส. หรือ ส.ว. ท่านใด โหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ แล้วหากมีการแก้ไขมาตรา 112 จะไปยื่นยึดเครื่องราชฯ บุคคลนั้น ตนมองว่า การโหวตให้ใครเป็นนายกฯ ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. มีวุฒิภาวะมากพอ ไม่มีความจำเป็นที่จะข่มขู่ล่วงหน้า

นอกจากนี้ นายสนธิญา ยังได้เผยถึงการจัดตั้ง “รัฐบาลก้าวไกล” หลังพรรคก้าวไกลได้รับผลการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยอยู่ในลำดับที่สอง โดยเจ้าตัวมั่นใจว่า ทั้งสองพรรคไม่ได้มีความจริงใจต่อกัน

“ผมขออนุญาตกราบเรียน เพื่อไทย ก้าวไกล ยังไงเขาก็ไม่จริงใจต่อกัน การตลาดเขาอยู่กลุ่มเดียวกัน เมื่อไหร่ก้าวไกล เดินต่อไป ใหญ่โตเรื่อยๆ เพื่อไทย ก็จะเล็กลงเรื่อยๆ” นายสนธิญา กล่าว...

เมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า “คนเขาจะจับมือกัน ไปเสี้ยมให้เขาแตกกัน”

นายสนธิญา ตอบกลับไปทันทีว่า “ผมไม่ได้เสี้ยม นี่เรื่องจริง ถ้าเสี้ยมได้ก็เสี้ยม”

คุณอาจสนใจ

Related News