เลือกตั้งและการเมือง

เลือก(สัก)ตั้ง Ep 46 : ศึกเลือกตั้งกับจุดยืนทางการเมือง

โดย paweena_c

17 พ.ค. 2566

10 views

ถึงนาทีนี้หลาย ๆ โพลยืนยันตรงกันว่า "ก้าวไกล" มาแรงแบบสุดๆ อะไรที่เป็นปัจจัยนั้น และจากการหาเสียงของก้าวไกลทำให้พรรคการเมืองอื่นต้องทำอย่างไร

นาทีนี้ คู่ปรับทางการเมือง อาจจะไม่ได้สู้กันเฉพาะฝ่ายที่จุดยืนต่างกันเช่นที่เราเห็นมา แต่กลายเป็นว่า ตอนนี้ฝั่งที่เคยร่วมมือกันอย่างอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ต้องมาต่อสู้เพื่อแย่งชิงฐานเสียงกัน

แทบจะไม่ต้องเท้าความกันว่า ที่ผ่านมาโพลจากทุกสำนัก พรรคที่มาเป็นอันดับหนึ่งคือพรรคเพื่อไทย แต่เวลาผ่านไป สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ กระแสพรรคก้าวไกลที่ค่อนข้างมาแรง และแม้แต่พรรคเพื่อไทยเองก็ยังยอมรับ

ในทางการเมือง ต้องบอกว่าเป็นการยาก ที่แฟนคลับของพรรคเพื่อไทย และ ก้าวไกล จะเปลี่ยนไปร่วมกับอีกฝั่ง เช่นเดียวกับแฟนคลับของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ พลังประชารัฐก็จะไม่ไปรวมกับเพื่อไทยหรือก้าวไกลเช่นกัน ดังนั้นหากพรรคใดพรรคหนึ่งมีคะแนนเพิ่ม ก็ต้องมีพรรคหนึ่งคะแนนลด และพรรคที่คะแนนลดก็จะเป็นพรรคฝั่งเดียวกันนั่นเอง

ช่วงที่ผ่านมาต้องบอกว่าพรรคเพื่อไทยหมายมั่นปั้นมือที่จะเป็นรัฐบาลแบบเบ็ดเสร็จพรรคเดียว และหวังได้คะแนนแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะเสียง ส.ว. ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพรรคอื่นมากนัก แต่ดูเหมือนว่าช่วงที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลจะทำได้ค่อนข้างดีในการนำเสนอนโยบายและจุดยืน

ต้องบอกว่าขณะนี้  สังคมจำนวนมากต้องการพรรคที่มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าอยู่ฝั่งไหนและกำลังทำอะไร โดยพรรคก้าวไกลก็เป็นคนนำเทรนด์นี้ในฝั่งนี้ โดยประกาศชัดเจนว่า “มีเราไม่มีสองลุง” คือไม่จับมือทั้งกับพรรคประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ

ขณะที่ก่อนหน้านี้ “เพื่อไทย” แม้จะพูดชัดว่าจะไม่จับมือกับ “รวมไทยสร้างชาติ” ที่มีคุณประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่กลับพูดจาไม่เต็มปากเต็มคำเมื่อถูกถามว่าจับมือกับพลังประชารัฐของพล.อ.ประวิตรหรือไม่

นี่จึงเป็นเหมือนก้าวที่ไม่สามารถทะยานไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ก้าวไกลกลับพูดชัด และช่วงชิงคะแนนนี้ไปอย่างมาก จนเกิดเป็นกระแส และเหมือนที่เราบอกแต่ต้น คะแนนที่ชิงมาไม่ได้ชิงมาจากพลังประชารัฐ หรือ รวมไทยสร้างชาติ แต่ชิงมาจากเพื่อไทย

ขณะที่เพื่อไทยเองก็รับรู้กระแสนี้และรับรู้ว่าหากหวังจะแลนด์สไลด์ การปล่อยเบลอ หรือทำให้ไม่ชัดเจนยิ่งจะทำให้เสียคะแนน แล้วหลังเลือกตั้งแทนที่จะได้เสียงมหาศาลแบบไม่ต้องง้อใคร หรือมีอำนาจต่อรองเต็มมือ อาจต้องยอมเพื่อให้พรรคอื่นมีอำนาจต่อรองเหนือขึ้นมา

สุดท้าย เพื่อไทย เองก็ต้องเดินตามเกม ด้วยการให้คุณเศรษฐา ทวีสิน ประกาศจุดยืนว่าไม่ร่วมกับทั้งพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ

หรือคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ. ครอบครัวเพื่อไทย ก็ยังต้องออกมาบอกว่า ที่ผ่านมายังไม่ประกาศจับมือกับพรรคไหน เพราะหากเพื่อไทย ได้คะแนนมาก ก็มีสิทธิเลือกพรรคที่ทัศนคติตรงกันและรับกันได้ แต่จะไม่รวมมือกับพรรคที่พวกเขาเรียกว่าเผด็จการ

ไม่เพียงแต่เฉพาะฟากฝั่งนี้ แต่อีกฝั่งอย่างพลังประชารัฐเองก็เช่นกัน  ยังมีกองเชียร์อีกเป็นจำนวนมากที่ตะขิดตะขวงใจหากต้องร่วมมือกับก้าวไกล หรือ เพื่อไทย   สุดท้ายก็ถูกกดดันให้ต้องประกาศเช่นกันว่า จะไม่ร่วมมือกับสองพรรคนี้

เห็นไหมคะว่ามาถึงจุดนี้เรามาถึงการเลือกตั้ง ที่ทุกพรรคต้องประกาศให้สังคมได้รับรู้จุดยืน และหากใครไม่ประกาศจุดยืนหรือมีอะไรไว้ข้างหลังก็พร้อมที่จะถูกทิ้งเสมอ และกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง ต้องดูว่าการกดดันให้ประกาศจุดยืนจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปอีกหรือไม่


คุณอาจสนใจ

Related News