เลือกตั้งและการเมือง

เลือก(สัก)ตั้ง Ep 23 : "บ้านใหญ่" ที่มาคืออะไร ทำไม​ใคร ๆ ก็วิ่งหา

โดย paweena_c

1 พ.ค. 2566

18 views

"บ้านใหญ่" ศัพท์การเมือง ที่หลายคนคุ้น แต่อีกหลายคนยังไม่รู้จัก ที่มาของบ้านใหญ่คืออะไร และที่สำสัญ ทำไมใครที่อยากเป็นรัฐบาลต้องวิ่งหา 

วันนี้เราจะมาอธิบายคำว่า “บ้านใหญ่” ให้ฟังกัน

คนกรุงเทพ หรือ หลายจังหวัดก็อาจจะไม่คุ้นกับ “บ้านใหญ่” เพราะไม่มีนักการเมืองตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่ครองพื้นที่จังหวัดนั้นๆมาอย่างเหนียวแน่นและยาวนาน

แต่กับหลายๆจังหวัด มักมี “ตระกูลนักการเมือง” ที่ครองพื้นที่จังหวัดนั้นอย่างเหนียวแน่น และคุมฐานเสียงได้อย่างอยู่หมัด ชนิดที่เรียกกันว่าตัวบุคคลใหญ่กว่าพรรคการเมือง และถ้าพรรคการเมืองอยากมีฐานเสียงในจังหวัดนั้นก็ต้องวิ่งเข้าหา “ตระกูลการเมือง” นี้

ยกตัวอย่างเห็นได้ชัด เช่น “บ้านใหญ่” ของ สุพรรณบุรี ก็คือ ตระกูลศิลปอาชา

บ้านใหญ่ของสมุทรปราการก็คือ “อัศวเหม”

บ้านใหญ่ของ “อุทัยธานี” ก็คือ “ไทยเศรษฐ์”

บ้านใหญ่ของ  “นครปฐม” ก็คือ “สะสมทรัพย์”

บ้านใหญ่ของ “อ่างทอง”​ก็คือ “ปริศนานันทกุล”

บ้านใหญ่ของ “ชลบุรี” ก็คือ “คุณปลื้ม”

บ้านใหญ่ของ “บุรีรัมย์” ก็คือ “ชิดชอบ”

บ้านใหญ่ ของ "ฉะเชิงเทรา" ก็คือ "ตันเจริญ"

บ้านใหญ่ของ สุโขทัย ก็คือ "เทพสุทิน"


การเกิดขึ้นของบ้านใหญ่นั้น มักจะเป็นตระกูลคหบดีเก่าของจังหวัดนั้นๆ ที่มีความร่ำรวย และมักจะมีคนในตระกูลมาเล่นการเมืองและพัฒนาจังหวัดนั้นๆ จนครองฐานเสียงทั้งคะแนนจากชาวบ้านและหัวคะแนน แต่ก็มีไม่น้อยที่เกิดมาจากการเล่นการเมืองจนผูกขาดความเป็นเจ้าของพื้นที่

บ้านใหญ่จะไม่ได้มีอิทธิพลเฉพาะกับการเมืองระดับชาติเท่านั้น แต่จะมีอิทธิพลกับการเมืองระดับท้องถิ่น ว่ากันว่าลงไปถึงขนาดระดับการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านด้วยซ้ำ

และนั่นก็จะย้อนกลับมาถึงการเลือกตั้งใหญ่อีกครั้ง เพราะนักการเมืองท้องถิ่นก็จะเป็นหัวคะแนนสำคัญในการเลือกตัั้งระดับชาติ

บุคลิกสำคัญที่บ้านใหญ่ต้องมีคือการพัฒนาจังหวัด และความยึดติดกับพื้นที่ โดยฐานคะแนนของ “บ้านใหญ่” จะไม่ยึดโยงกับกระแสพรรคการเมือง ดังนั้นไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งไหน หากอยากเป็นพรรคที่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ก็ต้องวิ่งเข้าหา “บ้านใหญ่”  และเราก็มักจะเห็นบ้านใหญ่เป็นพรรครัฐบาล เพราะการเป็นพรรครัฐบาลก็ไม่ยากที่จะดึงงบประมาณมาลงพื้นที่เพื่อพัฒนาจังหวัดของตัวเองนั่นเอง


คุณอาจสนใจ

Related News