“วันนอร์-ทวี-รุ่งเรือง” ติวเข้มผู้สมัคร สส.ประชาชาติ ปลุกต้องใจสู้ ชี้ 3 ข้อทำชนะเลือกตั้ง

“วันนอร์ - ทวี - รุ่งเรือง” ติวเข้มผู้สมัคร สส.ประชาชาติ ปลุกต้องใจสู้ ชี้ 3 ข้อทำชนะเลือกตั้ง “ตัวบุคคล - กระแส - การบริการจัดการ” “วันนอร์” มั่นใจเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน ขอกัดฟันลุยสู้ศึก 40 วันเพื่ออนาคต “ทวี” เน้นย้ำเปลี่ยนประเทศไทยให้ดีขึ้น ขณะที่ “รุ่งเรือง” ชงนโยบายเศรษฐกิจสร้างเม็ดเงินให้ 3 จว.ใต้ ลั่นไม่ขายฝัน ทำได้จริง



วันที่ 29 ธ.ค. 2568 ที่โรงแรมอัลมีรอซ พรรคประชาชาติได้จัดสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสส.เพื่อติวเข้มข้อกฎหมายและกลยุทธ์ในการหาเสียง โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรค พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค นายรุ่งเรือง ทิพยศิริ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค นายมีชัย ออสุวรรณ พร้อมด้วยผู้สมัครสส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขต เข้าร่วม



นายวันมูหะมัดนอร์ บรรยายพิเศษเรื่อง “หาเสียงอย่างไรให้ชนะการเลือกตั้ง โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า พรรคเห็นความสำคัญของจุดเริ่มต้น อะไรก็ตามถ้าเริ่มต้นดี ท้ายก็จะดีประสบความสำเร็จ ขอให้ผู้สมัครดูคู่มือการเลือกตั้งที่พรรคแจก จะบอกทั้งหมด ทั้งเรื่องการใช้สื่อ การหาเสียงทางโซเชียล การติดโปสเตอร์ การตั้งผู้ช่วยหาเสียง การตั้งผู้แทนประจำหน่วยให้ศึกษาอย่างละเอียดจะดีมาก ทั้งนี้การกำหนดเป็นเรื่องอัลเลาะห์ แต่ความพยายามเป็นของพวกเรา ตอนที่ตนลงใหม่ๆ ไม่มีคนรู้จัก เคยผ่านคู่แข่งเก่งๆมาแล้วแต่ไม่หวั่น อย่าไปคิดว่าเราเป็นรอง แต่ไม่ประมาทว่าเป็นต่อ และอย่าไปตกใจ หากคู่ต่อสู้พูดให้เราหมดกำลังใจ เพราะถ้าหมดกำลังใจ จะชนะการเลือกตั้งได้อย่างไร

ดังนั้นผู้สมัครต้องจิตใจเข้มแข็ง ไม่ต้องกลัวแม้ว่าพรรคอื่นจะมีทุนมากกว่า เราต้องสู้ ที่ตนชนะการเลือกตั้งมาเพราะใจสู้ อย่าให้คิดว่าเงินซื้อพี่น้องเราได้ เงินซื้อไม่ได้หรอก แต่ให้บอกเขารับเงินได้ด้วยมือซ้าย แต่เวลาเข้าคูหาให้กามือขวา วันที่ 8 ก.พ.ละหมาดเสร็จแล้ว ก็ให้เหนียดว่าวันนี้จะไปทำบุญ โดยจะไปกาประชาชาติทั้งเขตและปาร์ตี้ลิสต์ เพราะพรรคประชาชาติรักษาหลักการศาสนา ไม่เอากฎหมายสมรสเท่าเทียม ไม่เอากัญชา ไม่เอาเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็ก ต่อต้านปาเลสไตน์ทั้งในสภาและนอกสภา ถ้ากาให้ ถือว่าได้บุญ  ได้บุญอย่างไร ถ้ามาก็สู้เรื่องพน้องเราเรื่องปาเลสไตน์ เราก็พูดทุกที่ ช่วยพี่น้องเราเดือดร้อน คนที่เลือกเราก็ได้บุญ



นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ขอให้มั่นใจในตัวของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค เพราะมีคนถามว่าทำไมตนไม่เป็นหัวหน้าพรรค ก็ได้ยืนยันไปแล้วว่าพรรคเราเปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ใช่บริษัทจำกัดแต่เป็นเหมือนบริษัทมหาชน

“ท่านทวีเปรียบเสมือนกรรมการบริหารใหญ่ของบริษัท ที่ผ่านมาท่านบริหารงานดีหรือไม่ ทำกำไรให้บริษัทหรือไม่ ก็คงเห็นกันแล้ว ทำให้พรรคประชาชาติดีขึ้น หรือทำให้บริษัทแห่งนี้มีกำไรแล้วเราจะปลดทำไม ผู้จัดการใหญ่อย่างนี้ อีกทั้งยังไม่หมดวาระ และเป็นยังเป็นรัฐมนตรีที่ขยันที่สุด ถ้าไม่ดีจริง ผมไม่ยอมให้เป็น ผมไม่ทอดทิ้งพรรค เพราะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคซึ่งเหมือนคนถือหุ้นใหญ่ คอยประเมินประธานผู้จัดการใหญ่อีกที”นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว  



นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวเน้นย้ำว่า เราจะชนะเลือกตั้งได้ก็ต้องมีองค์ประกอบเรื่องตัวบุคคล กระแส และการบริหารจัดการที่ดี ขอให้ผู้สมัตรทำตัวเป็นเหมือนต้นข้าวมีเม็ด มีรวง จะโน้มลงดิน ดินคือ ประชาชน เราต้องไปหาประชาชนด้วยความนอบน้อม ไม่เก่งกว่าประชาชน เพราะเขาเป็นเจ้าของอำนาจ ฝากทุกคน ความอ่อนน้อม สุภาพ เป็นหลักของอิสลาม ตนใช้มาจนทำให้เป็น สส. 11 สมัย การเลือกตั้งครั้งนี้มีเวลาสั้นมาก  ถ้าไม่มีการบริหารที่ดี จะไม่ชนะ ขณะเดียวกัน เรื่องของราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะราคายางพารา ตนมั่นใจว่าหากพรรคประชาชาติได้ร่วมรัฐบาลจะสามารถทำราคาให้สูงขึ้นได้ แต่ต้องได้รับผิดชอบกระทรวงเกษตรฯ

“ เที่ยวหน้าผมพูดได้เลยว่าเราต้องเป็นรัฐบาลแน่นอน พรรคเล็กนี่แหละจะเป็นรัฐบาล ผมมองการเมืองทะลุปรุโปร่งอยู่แล้ว พรรคใหญ่บางพรรคบอกกันไปมา กูไม่เอามึง แต่เราไม่ทะเลาะกับใคร แต่เราต้องการไปทำงาน  เขาต้องเอาไรไป เราไม่มีปัญหา ใครๆก็อยากให้เราไปร่วมรัฐบาล คราวหน้าตั้งใจได้เลยเป็นรัฐบาลแน่นอน และคราวหน้าถ้าเป็นรัฐบาล ก็ขอให้เลือกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แต่ถ้าไม่ได้ก็เป็นรัฐมนตรีช่วยฯ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าถ้าบริหารจัดการที่ดีจะชนะเลือกตั้งแน่นอน ชัยชนะอยู่ที่เรา 40 วัน มีความหมายมากต่อชีวิต ต่ออนาคต เชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ถ้าไม่ทำ 40 วันนี้ อาจจะสายและสายไปตลอดชีวิตก็ขออวยพรให้ชนะการเลือกตั้ง”นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว  



ด้านพ.ต.อ.ทวี บรรยายพิเศษเรื่องเลือกตั้ง 69 เลือกประชาชาติ เปลี่ยนประเทศไทยให้ดีขึ้น ว่า พรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองที่เป็นความหวัง อาจจะเรียกว่าอยู่บนหลักการที่ถูกต้องมีคุณธรรม มีความเสมอภาค เราได้กำหนดมอตโต้ไว้ว่า “พรรคประชาชาติสร้างคน เพื่อให้คนไปสร้างชาติ” เพราะคนมีความสำคัญ ดังนั้น การที่ชาติจะมั่นคง ไม่ใช่เพราะรัฐมีอำนาจมากขึ้น แต่เพราะประชาชนมีศักดิ์ศรีมากขึ้น เราต้องทำให้ประชาชนมีการศึกษาที่ดี ต้องพัฒนาคนก่อน ประเทศที่มีความเจริญเขาให้ความสำคัญของคน เช่น สิงคโปร์ เขาให้ความสำคัญประชาชน ชุมชมมาก แต่เราให้ความสำคัญกับรัฐ รวมศูนย์



พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติ มีนโยบาย เพื่อคุณภาพที่ดี กำหนดตัวชี้วัดไว้ 0 10 100 คือ โกงเป็นศูนย์ งบถึงมือประชาชน ปราบปรามทุจริต ขจัดนักค้ายา นำกัญชา กระท่อม กลับมาเป็นยาเสพติด ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นศูนย์ ส่วน 10 คือ  GDP โต 10 %  เศรษฐกิจฐานรากแข็งแรง ให้มีการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อพลิกโฉมสามจังหวัดชายแดน โดยสร้างเขตพัฒนาเต็มพื้นที่สามจังหวัดและสี่อำเภอในจังหวัดสงขลา มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ การยกเว้นอากรนำเข้าและส่งออกในรูปแบบ Freeport การยกเว้นภาษีขายทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีท้องถิ่นหรือภาษีรูปแบบเฉพาะในรูปแบบ Duty Free ผลักดัน “นิคมอุตสาหกรรมฮาลาล” ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

ส่งเสริมและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้มีศักยภาพและมีความโดดเด่น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของชุมชน ด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรม ยกระดับและสนับสนุนธุรกิจร้านอาหารไทยหรือร้าน “ต้มยำ” ชายแดนใต้และประเทศเพื่อนบ้านที่สร้างรายได้ให้กับพื้นที่พร้อมกับยกระดับแรงงานท้องถิ่นและเร่งจัดหาแหล่งงานในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วน 100 คือ 100% นิติรัฐและนิติธรรม – สิทธิเสรีภาพ เสมอภาคและเป็นธรรม การศึกษามีคุณภาพ เท่าเทียม ทั่วประเทศ ต้องมี “การศึกษาภาคบังคับ” ถึงมัธยมปลาย (ม.6) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 100% ชุมชนเป็นศูนย์กลางขจัดยาเสพติด 100% ความขัดแย้งประชาชนกับรัฐเรื่องที่ดิน ป่าไม้ ต้องได้รับการ “พิสูจน์สิทธิ 100%” ที่หลักเกณฑ์การพิสูจน์มีความเป็นธรรม



นายรุ่งเรือง ทิพยศิริ หัวหน้าทีมเศรษศฐกิจพรรคประชาชาติ บรรยายพิเศษ ความจริงเศรษฐกิจไทยกับการหาเสียงของพรรคประชาชาติว่า ประเทศไทยมีปัญหาประชากร ลดลงติดต่อกันเข้าปีที่ 5 เป็นจุดที่น่ากลัว วัยทำงานน้อยลง ถ้าเศรษศฐกิจโตน้อย คนทำงานก็น้อยลง คนสูงอายุมากขึ้น แล้วอนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ดังนั้น ใครจะเป็นรัฐบาลปีหน้าเหนื่อยแน่ สิ่งแรกที่จะต้องทำคือต้องแก้เรื่องหนี้สาธารณะ เพราะกำลังชนเพดาน ใครมาเป็นรัฐมนตรีคลังต้องมาแก้เรื่องสาธารณะ อาจจะต้องตั้งงบประมาณรายจ่าย ปี 69 เพิ่มเติมเพื่อขออนุมัติจากสภาฯ งบกลางเกือบ แสนกว่าล้านเกือบหมดแล้ว เพราะต้องนำไปใช้น้ำท่วมที่หาดใหญ่  ซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ รัฐบาลจะมีพลังในการใช้จ่ายน้อยลง

ทั้งนี้ นโยบายของพรรคประชาชาติไม่ได้ใช้เงินเยอะ เราจะไม่มีปัญหาในการเสนอนโยบายของต่อรัฐบาลในการตอบสนองพี่น้องประชาชน สิ่งที่เราตั้งนโยบายออกมาเราเดินมาในทางที่ถูก ไม่ไปสร้างหนี้สาธารณะแบบที่ทำลายเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 9 ข้อ คือ

1.สร้างการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อพลิกโฉม 3 จว.ชายแดนใต้ 2.จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมให้สำเร็จเป็นรูปธรรม 3.ส่งเสริมและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น 4.จัดตั้งกองทุนหมู่บ้านสันติสุข 5.โครงการกยศ. ปลดหนี้ช่วยชาติ 6.สนับสนุนการจัดตั้งสหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 7.สนับสนุนการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ 8.แก้ไขปัญหาที่ดิน ทำกินและพื้นที่ป่าทับซ้อนอย่างเป็นธรรม 9.พัฒนาตาดีกา ปอเนาะและโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนอย่างยั่งยืน



“ถ้าเราเป็นร่วมรัฐบาล อยากให้หัวหน้าพรรค นำเสนอแนวคิดต่อรัฐบาลว่ าเราควรจะเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ และตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจริงๆ เพื่อจะเป็นพื้นที่สร้างอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมที่นำเอาซอฟพาวเวอร์ของภาคใต้ขึ้นมาทำให้เกิดการผลิต ให้มีคำว่าฮาลาล หรือการผลิตของชุมชนที่สามารถขายได้ ทำให้เกิดอุตสาหกรรมที่มีการต่อยอดขึ้นมา แต่ส่วนหลักคืออยากเห็นการพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นสูงใน 3 จังหวัดเพราะมีพื้นที่เยอะ และต้องการการฉุดเศรษฐกิจขึ้นมาอย่างมหาศาล

สิ่งที่ดีที่สุดคือต้องมีกำลัง ซึ่งก็คืออุตสาหกรรมก้าวหน้าและอุตสาหกรรมขั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือซุปเปอร์ชิป ตอนนี้มาเลเซียทำเยอะมากและอยู่ใกล้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราไม่ได้สร้างนโยบายแบบหลอก แต่ตั้งนโยบายบนความเป็นจริงของประเทศและทำได้  ส่วนเรื่องหาเงินผมมีวิธี ถ้าให้กระทรวงเศรษฐกิจผมจะแนะนำเรื่องการหาเงินได้แน่นอน” นายรุ่งเรืองกล่าว