เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ ไฟเขียว สิทธิประโยชน์นักลงทุนต่างชาติถ่ายหนังในไทย รับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 30%
โดย nicharee_m
13 พ.ย. 2567
28 views
นายกฯ ประกาศมาตรการให้สิทธิประโยชน์นักลงทุนต่างชาติ ในอุตสาหกรรมหนัง ได้รับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 30% จากเดิม 20% หากมาถ่ายทำในไทย เชื่อหารือภาคธุรกิจในอเมริกา สร้างงาน-เพิ่มโอกาสให้คนไทยมากขึ้น เผยเตรียมประสานมหาวิทยาลัยชั้นนำ เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนา เพิ่มทักษะการทำงาน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ตามเวลาท้องถิ่นของนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการหารือกับภาคเอกชนในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาว่า ได้หารือกับ บริษัทเวสเทิร์น ดิจิทัล หรือ ดับเบิ้ลยูดี ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว 2 แห่ง ประกอบด้วย พระนครศรีอยุธยา และปราจีนบุรี ซึ่งจะทำเรื่องฮาร์ดไดรฟ์เป็นหลัก และมีลูกค้า อาทิ Google , Microsoft และ Amazon เป็นต้น
แต่มาในครั้งนี้บริษัทดับเบิ้ลยูดีได้ผลักดันเรื่องพลังงานสะอาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่จะได้ประสานงานและส่งเสริมตรงนี้ให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริษัทดับเบิ้ลยูดีตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2030 จะเดินหน้าการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้นจาก 50% กลายเป็น 100% ทางบริษัทจึงได้ขอความร่วมมือรัฐบาลไทยและบีโอไอให้สนับสนุนในเรื่องนี้ จึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะเกิดโอกาสการสร้างรายได้ใหม่ๆ เกิดโอกาสการจ้างงาน และเกิดงานใหม่ๆ ให้กับคนไทยแน่นอน แต่การที่จะให้คนไทยไปทำงานในบริษัทเหล่านี้ จะต้องส่งเสริมต่างชาติด้วยในเรื่องของภาษาและทักษะด้วย เพื่อให้ตอนเข้าไปทำงานสามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้นและสามารถสื่อสารได้ ฉะนั้นต้องพูดคุยกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ต่อ เพื่อให้เรามีศักยภาพที่เพียงพอ
พร้อมกล่าวว่า ได้พูดคุยกันถึงเรื่องอัปสกิลและรีสกิลด้วย โดยไทยได้บอกไปแล้ว ว่าต้องการจะขับเคลื่อน 2 สิ่งนี้ เพื่อพัฒนาบุคคลากรในประเทศ ซึ่งไทยมีนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะอยากให้คนไทยมีทักษะการทำงานเกี่ยวกับสาขาเทคโนโลยี เอไอ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นต่อจากนี้จะมีการประสานให้ความรู้ และทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆของประเทศไทยเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนา (R & D Center) ร่วมกัน เพื่อสร้างงานและสร้างอาชีพให้กับคนไทย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยต่อว่าได้พูดคุยกับบริษัทโมชั่น พิกเจอร์ และบริษัทอื่นๆ อาทิ เอชบีโอ , อเมซอน , เน็ตฟลิกซ์ , ดิสนีย์ และ ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีการลงทุนและถ่ายทำในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยปีที่แล้วปีเดียวมีหนังมาถ่ายที่เมืองไทยถึง 450 เรื่อง จาก 40 ประเทศ ขณะที่ สหรัฐอเมริกาประเทศเดียวมีจำนวน 34 เรื่อง จึงถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก
ก่อนเปิดเผยว่า วันนี้ไทยได้ประกาศว่ารัฐบาลมีมาตรการให้สิทธิประโยชน์ในเรื่องของ cash rebate กับภาคเอกชน กล่าวคือ เมื่อมาถ่ายทำในประเทศไทยจะได้รับเงินคืน โดยไทยได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของการคืนเงินสูงสุด 30% จากเดิม 20% และ เมื่อได้คุยกับทุกๆ บริษัทก็พบว่าทุกคนดีใจมาก เพราะแทนที่จะไปถ่ายทำในประเทศอื่นใกล้ๆ เรา กลายเป็นมาลงทุนในประเทศไทยแทน
ทางบริษัทต่างๆ จึงตื่นเต้นมากในเรื่องนี้ และระบุว่าจะกลับไปบอกคนในธุรกิจของเขา ว่าประเทศไทยมีนโยบายนี้และผ่านแล้ว เพื่อที่ทุกคนจะได้มาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งฟังแล้วก็น่าดีใจ เพราะเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องดี ขณะเดียวกัน ตนก็เชื่อเรื่องนี้ก็จะเพิ่มโอกาสให้กับคนไทยด้วย เพราะจะเกิดการจ้างงานมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนอยากเห็น
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่ารัฐบาลพยายามจะสร้าง Eco system ในเรื่องของภาพยนตร์เหล่านี้ โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเขียนบท การถ่ายทำ และทุกอย่างที่เกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งหมด เพื่อให้ทำงานเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยจะพยายามร่วมมือกันให้คนไทยมีความรู้และมีอาชีพ เพื่อให้สามารถแข่งขันบนเวทีโลกได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้พูดคุยกันถึงมาตรการลดขั้นตอนทางกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกและเป็นแรงจูงใจในการลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่าการเดินทางมาเยือนลอสแอนเจลิสในครั้งนี้ รัฐบาลขับเคลื่อนไปหลายอย่าง อาทิ การดึงดูดการลงทุน และยกระดับการพัฒนาศักยภาพของคนไทย ด้วยเหตุนี้ จึงรู้สึกว่าการมาตอกย้ำในเรื่องการลงทุนด้วยตัวเอง ทำให้ภาคเอกชนมั่นใจว่า เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน