เลือกตั้งและการเมือง
‘คลัง’ แง้ม ข้อสรุป Entertainment Complex ไม่เกิน ต.ค. นี้ จากนั้น ส่งเข้าที่ประชุม ครม.
โดย nattachat_c
30 ก.ย. 2567
127 views
วันนี้ (30 ก.ย. 67) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex อาทิ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาหารือกัน เพื่อหาข้อสรุปในโครงการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกินต้นเดือนตุลาคมนี้ และจะมีข้อสรุปทั้งหมดออกมา จากนั้น จะรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป
โดยหลักการของโครงการ Entertainment Complex คงไม่ได้ต่างจากที่สภาผู้แทนราษฎรส่งให้ ครม. ได้พิจารณาก่อนหน้านี้ แต่อาจต้องปรับเปลี่ยนในบางเรื่องที่เป็นข้อจำกัด โดยเฉพาะในด้านกฎหมาย เช่น การบริหารรายได้ การจัดเก็บภาษี
ซึ่งตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ กำหนดว่า อำนาจในเรื่องดังกล่าวเป็นของกระทรวงการคลัง ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ 3 กรมจัดเก็บภาษี ที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งคงไม่สามารถมอบอำนาจให้คณะกรรมการ หรือบุคคลใด ตามที่สภาฯ ให้ข้อเสนอแนะมาได้
ส่วนข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งกองทุน เพื่อลดผลกระทบจากการพนัน และสถานบันเทิงครบวงจรที่ยังมีปัญหาเล็กน้อย โดยเมื่อมาพิจารณาตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ในเรื่องการจัดตั้งกองทุนใหม่ ที่ห้ามไม่ให้มีภาระกิจซ้ำซ้อน ซึ่งข้อเสนอแนะจากส่วนราชการเห็นว่า อาจจะต้องมีการปรับรูปแบบกองทุน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปและสอดคล้องตามหลักกฎหมายประกอบทั้งหมด โดยรายละเอียดจำเป็นต้องมาหารือกัน เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนเรื่องพื้นที่จัดตั้ง Entertainment Complex จะไม่ได้พูดคุย เพราะไม่ใช่หน้าที่รับผิดชอบ แต่เรามีหน้าที่พิจารณาในขั้นตอนการทำกฎหมาย และจะวิเคราะห์ในเรื่องผลได้ทางเศรษฐกิจว่า มีรายได้ หรือเป็นประโยชน์กับรัฐเท่าไร และอย่างไร หลัก ๆ ก็ดูโมเดลของสิงคโปร์ เพราะเขาทำไว้ดี" นายจุลพันธ์ กล่าว
ส่วนมิติของการป้องกันผลกระทบทางลบ ที่จะเกิดกับภาพรวมเศรษฐกิจ และสังคมนั้น กระทรวงการคลังได้พิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ท้ายที่สุด เรื่องนี้จะเป็นอำนาจของสภาฯ ที่จะต้องพิจารณาร่วมกันอีกครั้งว่า โครงการดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างไร จะป้องกันผลกระทบทางลบอย่างไร ซึ่งต้องมาช่วยกันคิดเพื่อให้โครงการเดินหน้าสู่ความสำเร็จ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่เอกชนแสดงความสนใจที่จะลงทุนในโครงการ Entertainment Complex ว่า นับเป็นเรื่องดี โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น เพียงแต่กระทรวงการคลังจะต้องกำหนดข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน
รวมทั้ง กำหนดรูปแบบโครงการออกมาเป็น TOR เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ และย้ำว่า กระบวนการทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย โปร่งใส และมีความชัดเจนว่า รัฐ และประชาชน จะได้รับประโยชน์อย่างไร
เอกชนจะไปดำเนินการตรงไหน อย่างไร ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่กระทรวงการคลังในฐานะภาครัฐ ต้องมากำหนดข้อกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน ซึ่งอาจจะใช้เวลาเป็นปี อาจจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำหนดพื้นที่ว่า จังหวัดไหน หรือจุดไหน จะเหมาะสม
รวมถึง จะต้องมีการกำหนดรูปแบบของโครงการออกมาเป็น TOR เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เช่น กำหนดให้มีพื้นที่ของสวนสนุกอย่าง Disneyland หรือ Universal Studios เป็นต้น หรือให้มีพื้นที่ของสนามกีฬาระดับนานาชาติแห่งใหม่