เลือกตั้งและการเมือง

'ภูมิธรรม' เชื่อประชาชนเข้าใจ “กองทัพมีไว้เพื่ออะไร”

โดย thichaphat_d

26 ก.ย. 2567

98 views

'ภูมิธรรม' เชื่อ ประชาชนเข้าใจ “กองทัพมีไว้เพื่ออะไร” หลังเข้ารับฟังบทสรุปผลงานหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 ยัน ความฝันของนักศึกษามีโอกาสเป็นจริง และสามารถก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่ดีในอนาคตได้

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 ก.ย. 2567 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธาน ฟังการ แถลงผลงานทางวิชาการ ภายใต้หัวข้อ “Level Up ยกระดับกองทัพไทยให้ไกลกว่าเดิม” ของคณะนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1


โดย พล.อ. ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) , พล.อ.อ.ภูมิใจ เลขสุนทรากร ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ และ พ.อ.เอกรักษ์ สิงหพงษ์ ประธานรุ่นนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บร.รุ่นที่ 1 ใน ฐานะตัวแทนนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บร. รุ่นที่ 1 ให้การต้อนรับ และร่วมถ่ายภาพที่ระลึกบริเวณจุดถ่ายภาพ ชั้น 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโดยก่อนการเริ่มพิธีการนั้น นายภูมิธรรม ได้เข้าชมนิทรรศการที่ครอบคลุมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของ นักศึกษาหลักสูตร

วปอ.บร.รุ่นที่ 1 บริเวณ ชั้น 2 อาทิ การศึกษาการขับเคลื่อนการพัฒนา จ.สุโขทัย ภายใต้กิจกรรม Connect to the future moving forward together การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง วปอ.บร. รุ่นที่ 1 กับหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน รวมถึงชุมชนในพื้นที่ จ.สุโขทัย กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ณ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก กรุงเทพมหานคร กิจกรรมเพื่อสังคม "เรามีเรา" ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยใน จ.สุโขทัย และกิจกรรมเพื่อสังคมสนับสนุน นักเรียนใน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ก่อนที่นายภูมิธรรม จะเข้าห้องรับรอง เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเข้ารับฟังการชี้แจงการแถลงผลงานทางวิชาการ


ร.อ.ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำสถาบันการทูตและการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวเปิดแถลงผลงานทางวิชาการ ได้ทำการศึกษาในขั้นต้นด้วยกระบวนการ Strategic Foresight และได้ผลลัพธ์เป็นสภาพการณ์ด้านความมั่นคงของสังคมไทยในอนาคต 2 ประการสำคัญ ได้แก่ การเป็นสังคมสูงวัยขั้นสูงสุด (Super Aged Society) และปัญหา ภัยคุกคามความมั่นคงทุกรูปแบบ ทั้งที่มีอยู่และอาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต (Dynamic Emergig Treats)

ร.อ.ดร.จารุพล กล่าวต่อว่า ทางนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บร. รุ่นที่ 1 ได้มีข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปกองทัพด้วยการ "ยกระดับกองทัพ" (Level Up) รวมทั้งสิ้น 3 มิติ ได้แก่

1. Level up กองทัพเพื่อความเป็นประชาธิปไตยและการอยู่ร่วมกับสังคมอนาคต

2. Level up กองทัพเพื่อประสิทธิภาพ และมิติที่ 3.Level up กองทัพเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยหวังว่า ข้อเสนอทั้งสามมิติจะนำกองทัพไปสู่กองทัพที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในโลกอนาคต เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความมั่นคงปลอดภัยและความสถาพรของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน รวมถึงเป็นที่รักและความภาคภูมิใจของประชาชนคนไทยทุกคน


“หากจะเปรียบกองทัพเสมือนกับประกันสุขภาพ การยกระดับกองทัพ จึงไม่ต่างจากการยกระดับประกันสุขภาพให้ครอบคลุมโรคร้ายมากขึ้น ดังนั้นการยกระดับกองทัพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ถึงแม้ว่าการ "ไม่มีโอกาสได้ใช้" จะหมายความถึงความสงบเรียบร้อยของสังคมข้อเสนอการยกระดับกองทัพของนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 1 จึงเป็นความหวังและความฝันของนักศึกษาทุกคนในการมีส่วนร่วมพัฒนากองทัพให้มีศักยภาพในการ "รักษาโรค" ให้แก่ประชาชนได้มากขึ้น ทั้งโรคทาง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ในอนาคต” ร.อ.ดร.จารุพล กล่าว

ร.อ.ดร.จารุพล กล่าวว่า ผลงานดังกล่าว เป็นการร่วมมือร่วมใจกันของนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บร. รุ่นที่ 1 ที่ได้ใช้ประสบการณ์องค์ความรู้ และความชำนาญของแต่ละคน ประกอบกับองค์ความรู้ที่ได้รับจากหลักสูตร ร่วมกันสรรค์สร้าง ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลเพื่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ โดยยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อเสนอทั้ง 3 มิติ ดังกล่าวจะมีประโยชน์กับประเทศไทยต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังรับฟังการแถลงผลงานแล้วเสร็จ นายภูมิธรรม ได้ขึ้นรับเอกสารทางวิชาการของหลักสูตร วปอ.บร. พร้อมกล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ได้มารับฟังการแสดงผลงาน และกล่าวชื่นชมนักศึกษารุ่นใหม่ที่เป็นผู้บริหารแห่งอนาคต พวกท่านแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง อันเป็นความภาคภูมิใจของหน่วยงาน และองค์กรของท่าน ที่เป็นผลสัมฤทธิ์ที่ได้รับการคัดเลือกให้มาอบรมในหลักสูตรนี้

ผลงานที่มีการนำเสนอ แสดงถึงการเชื่อมประสานองค์กร บุคลากร และความร่วมมือ เพื่อการหาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนากองทัพ และประเทศให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมิติ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ


“ส่วนตัวเชื่อว่า ความฝันของนักศึกษาในการพัฒนา มีโอกาสเป็นจริง เพราะกองทัพยุคใหม่เป็นกองทัพที่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้ง ในวันนี้ตนเข้ามาเห็นวิดีทัศน์ที่เปิดในงาน มีข้อความว่า ”กองทัพมีไว้เพื่ออะไร“ ตอนนี้ตนเองเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะกองทัพเป็นหน่วยหน้าในการเข้าไปช่วยเหลือสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น อุทกภัยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมถึงในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งเมื่อตนลงพื้นที่ไปที่ไหน ทุกคนก็บอกว่ากองทัพไปถึงก่อน” รมว.กลาโหม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ในปัจจุบัน ทั้งภัยสงคราม การก่อการร้าย ภัยธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น AI เป็นต้น ตนเชื่อว่ากองทัพจะสามารถพัฒนาศักยภาพและรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ พร้อมมองว่าการพัฒนากองทัพ ไม่ใช่เพียงแค่การทุ่มงบซื้อยุทโธปกรณ์ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอีกด้วย และสามารถก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงานในวันนี้มีบุคคลทางการเมือง เข้าร่วมงาน อาทิ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นต้น

คุณอาจสนใจ

Related News