เลือกตั้งและการเมือง

ไม่เครียด! ‘สามารถ’ บอก ‘ลุงป้อม’ อารมณ์ดี ดูดไปป์ดูข่าว หลัง พท.เขี่ยพ้นพรรคร่วมฯ

โดย chutikan_o

28 ส.ค. 2567

119 views

ไม่เครียด! ‘สามารถ’ บอก ‘ลุงป้อม’ อารมณ์ดี ดูดไปป์ดูข่าว หลัง พท.เขี่ยพ้นพรรคร่วมฯ ย้อนถามสัญญาลูกผู้ชาย พปชร.โหวต ‘อุ๊งอิ๊ง’ นั่งนายกฯ แต่อีกพรรค งดออกเสียง ดันให้ร่วมรัฐบาล ท้าลาออก โหวตใหม่ ดูจะได้เสียงเท่าไหร่


วันที่ 28 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) มีมติไม่ขอร่วมงานกับพรรค พปชร. ว่า เรื่องนี้เป็นมติของ สส. แต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแสดงความชัดเจน ให้กับพรรค พปชร. ซึ่งอีกไม่นานพรรคคงมีมติออกมาอย่างแน่นอน หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องนี้


นายสามารถ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเข้าใจว่า คำว่าสัญญาลูกผู้ชาย ไม่ต้องเซ็นเอกสาร แต่เป็นการให้คำมั่นต่อกัน ว่าถ้าจะร่วมรัฐบาลแล้วโหวตให้ก่อนแล้ว ค่อยมาดูว่า ใครจะดำรงตำแหน่งไหน ซึ่ง พปชร.ก็ทำอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ตัวแทนพรรค พปชร.ก็ไปร่วมหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งในวันนั้นได้ระบุว่าจะให้นายชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกฯ ต่อมา สส.พท.มีมติอยากให้ นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคงเห็นว่าสถานการณ์พรรค พท.เป็นอย่างไร และในวันที่ 15 ส.ค. ทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลก็มาแถลงข่าว ว่าจะเลือกคนของ พท.แบบไม่มีเงื่อนไขไม่ว่าจะเป็นใคร และในวันเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีพรรคไหนส่งแคนดิเดตนายกฯ แข่ง และ พปชร.ก็โหวตให้นางสาวแพทองธาร ครบทั้ง 39 คน ขาดเพียงคนเดียว คือหัวหน้าพรรค เพราะติดภารกิจในการจัดเลี้ยงนักกีฬาโอลิมปิก และ พปชร.ได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีชุดเดิม 4 คน ซึ่งถ้านายกรัฐมนตรีเห็นว่าคนใดไม่มีความเหมาะสม ก็สามารถส่งรายชื่อกลับมาเพื่อเปลี่ยนตัวได้ ซึ่งหัวหน้าพรรคก็ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการไปต่อรองเก้าอี้ และยึดมั่นในคำพูดลูกผู้ชายที่ได้สัญญาไว้เท่านั้น แต่สุดท้ายพรรค พท.ก็มีมติออกมาว่า ไม่สบายใจในการร่วมงานกับ พปชร. ซึ่งตนเองเคยได้ยินคำสัมภาษณ์ของนางสาวแพทองธารว่ายังมี พปชร.ร่วมรัฐบาล แต่การกระทำของ พท.ไปเทียบเชิญพรรคโน้นพรรคนี้ ได้ปรึกษานางสาวแพทองธารแล้วหรือยัง


ส่วน พท.ไม่เอา พปชร.เพราะพลเอกประวิตร เป็นปฏิปักษ์กับพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งไม่มาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และอยู่เบื้องหลัง 40 สว. ในการสอยนายเศรษฐานั้น นายสามารถ กล่าวว่า อาจจะเข้าใจได้ว่าพลเอกประวิตรเป็นปฏิปักษ์ แต่คิดว่าพรรคการเมืองอื่นน่าจะเป็นปฏิปักษ์มากกว่า เพราะไม่เคยโหวตให้เลย ในรอบของนางสาวแพทองธาร งดออกเสียงทั้งพรรค แต่ของพรรคพลังประชารัฐโหวตให้ 39 คน คิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม


ส่วนเรื่อง 40 สว. จะเห็นว่าในรายชื่อ 21 คน ก็โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แปลว่า สว.รับไม่ได้ที่มีการเสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำผิด คงไม่มีใครไปยื่นถอดถอน


ส่วนที่บอกว่า สว.เป็นคนของพลเอกประวิตรนั้น ก็รู้อยู่แล้วว่า สว.ของพลเอกประวิตรมีอยู่เท่าไหร่ ถ้าจะเอาจริงก็คงมากันหมด แต่ 40 สว. ที่ยื่นคำร้อง มีคนไหนเป็นเพื่อนพลเอกประวิตรบ้าง การที่นายเศรษฐาต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ และมาโทษพลเอกประวิตรนั้นไม่ถูก ทำไมไม่ไปโทษ คนที่เอาชื่อนายพิชิต มายัดใส่มือนายเศรษฐา ต้องโทษคนนั้นมากกว่า


“ผมว่า ไม่เอาคืนหรอกครับ แต่ใช้กระบวนการของกฎหมาย ซึ่งมั่นใจว่า เรื่องของชาวบ้านที่ต้องไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจะตระบัดสัตย์หรือไม่ ต่อไปนี้พูดไป จะเชื่อถือได้หรือไม่ ส่วนเรื่องของพรรค สส.หลายคนคงต้องมีมติและดำเนินการกันต่อไป ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ติดตามการเมือง ไม่เคยเห็นตั้งแต่เล็กจนโต ที่ให้โหวตไปก่อนแล้วมาบิดทีหลัง ให้โหวตไปก่อนแล้วมาหักหลังทีหลัง ไม่เคยเห็น” นายสามารถกล่าว


ส่วนความรู้สึกของพลเอกประวิตรในขณะนี้นั้น นายสามารถ กล่าวว่า อารมณ์ดี ดูดไปป์ เมื่อวานก็ดูข่าวแล้วไม่ได้เครียดอะไร พลเอกประวิตรเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตรองนายกฯ อดีตรักษาการนายกฯ ผ่านอะไรมาเยอะ แต่ถ้านางสาวแพทองธาร คิดว่ามติ สส.ของพรรคสำคัญ เพื่อความสง่างาม ก็ขอให้ลั่นวาจาว่า ลาออก แล้วโหวตใหม่ และดูว่าจะมีคนแข่งหรือไม่ และจะเหลือคะแนนเท่าไหร่ อย่างนี้พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นต้องระวังด้วยหรือไม่


ส่วนกระแสที่กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ไปร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อล้มฝั่งพลเอกประวิตรนั้น เขาไม่ทราบ แต่มองว่า บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง พรรคการเมืองก็มีกฎ คิดว่าก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคที่ต้องดำเนินการต่อ


ส่วนถ้ากลุ่มของร้อยเอกธรรมนัสไปร่วมรัฐบาลเพียงกลุ่มเดียว จะส่งผลอย่างไรกับพปชร. นายสามารถ ถามกลับว่า เคยทำได้หรือ เพราะจากที่นายทักษิณ ชินวัตร พูดว่า ถ้ามาก็มาทั้งตัว ก็หมายถึง มาก็มาทั้งพรรคใช่หรือไม่ ต้องไปตีความกันเอาเอง เพราะพรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ดังนั้นไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องมีมติพรรค พร้อมยืนยัน พปชร.ไม่แตก แต่ทุกคนที่เป็น สส. มีความคิดเห็นต่างกันได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมีมติพรรค ส่วนใครจะปฏิบัติตามหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องเคารพซึ่งกันและกัน


นายสามารถ กล่าวว่า ส่วนหากวันหน้ามาเป็นฝ่ายค้าน และมีการโหวตสวนมติฝ่ายค้าน ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ แต่สุดท้ายก็มีกฎของพรรค ส่วนจะมีโอกาสขับกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส ออกจากพรรคหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค และเชื่อว่าไม่ใช่แผนปิดสวิตช์ 3 ป. เพราะปิดไม่ได้อยู่แล้ว พลเอกประวิตรก็ยังเป็น สส. และแคนดิเดตนายกฯอยู่ และที่บอกว่าปิดสวิตช์ก็คงไม่จริง และปิดไม่ได้ด้วย เพราะมั่นใจว่า 3 ป. ยังรักกัน ที่บอกว่าจะปิดสวิตช์ 3 ป. ปิดอะไร ไม่เชื่อว่าปิดได้ และเชื่อว่า สายสัมพันธ์ของ 3 ป. ยาวนานกว่า 50 ปี ไม่มีใครมาแยกสลายได้


ส่วนถ้าต้องไปร่วมงานกับฝ่ายค้านจริงนั้น มองว่าฝ่ายค้านไม่ได้ต้องการความสามัคคีเหมือนกับฝั่งรัฐบาล ที่จะต้องรวมเสียงหากโหวตแพ้ รัฐบาลก็ล่ม พรรคฝ่ายค้านก็ทำงานตรวจสอบรัฐบาล


ทั้งนี้ นายสามารถยืนยันว่าพลเอกประวิตร ยังไม่ได้ลาออกจาก สส. แม้จะมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้สองครั้งแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News