เลือกตั้งและการเมือง

ทนายยืนยัน ‘ทักษิณ’ ป่วยโควิดจริง เจ็บคอ-ไข้สูง-เสียงแหบ หลังมีคำสั่งฟ้องคดี ม.112

29 พ.ค. 2567

65 views

ทนายความส่วนตัว ยืนยัน “ทักษิณ” ป่วยโควิดจริงๆ มีอาการเจ็บคอ ไข้สูง 38 องศาฯ เสียงแหบ เผย พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง คดี ม.112 ทุกข้อกล่าวหา

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังพนักงานอัยการแจ้งผลการสั่งฟ้องคดี ม.112 ที่นายทักษิณตกเป็นผู้ต้องหา โดยยืนยันว่า นายทักษิณมีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 จริง ซึ่งได้รับการแจ้งจากนายทักษิณตั้งแต่เมื่อวานว่า มีอาการไข้ขึ้นสูงถึง 38 องศาเซลเซียส เจ็บคอ และจากการพูดคุยโทรศัพท์พบว่า มีอาการเสียงแหบ เท่าที่ตนทราบเบื้องต้น นายทักษิณพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านพักและรักษาตัวตามอาการ อีกทั้งยังได้ใบรับรองแพทย์ยืนยันว่า นายทักษิณป่วยโควิดจริง เห็นควรพักรักษาตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม ถึง 3 มิถุนายน โดยตรวจจากแพทย์ประจำสถาบันซึ่งมีใบประกอบวิชาชีพและใบประกอบโรคศิลป์ แต่สงวนที่จะเปิดเผยว่าเป็นโรงพยาบาลหรือสถาบันการแพทย์ของรัฐหรือเอกชน

ทนายวิญญัติ เปิดเผยอีกว่า ตนนำใบรับรองแพทย์มาแก่พนักงานอัยการตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย ยืนยันว่า ใบรับรองแพทย์ที่นำมายื่น เป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้จนทำให้พนักงานอัยการนำไปพิจารณาจนอนุญาตให้เลื่อนการสั่งฟ้องดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามที่ทุกคนทราบกันว่า การพักรักษาอาการโควิดนั้นจะต้องอยู่ห่างจากผู้คนและถือว่าเป็นสิทธิปกติของผู้ต้องหาตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการใช้สิทธิพิเศษแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่ทำไมถึงขอเลื่อนฟังคำสั่งเป็นวันที่ 25 มิถุนายนนั้น ทนายวิญญัติเปิดเผยแค่ว่า เป็นวันที่สะดวกเท่านั้น ไม่ได้มีนัยยะใดๆ แต่หากพนักงานอัยการให้นัดหมายมาในวันที่ 18 มิถุนายน ก็ไม่ติดขัดใดๆ เพราะเป็นดุลพินิจของพนักงานอัยการ

ส่วนสังคมจัดตั้งประเด็นว่าป่วยจริงหรือไม่นั้น เพราะเป็นการป่วยในช่วงที่มีนัดหมายกับพนักงานอัยการพอดี ตนก็ไม่อาจก้าวล่วงความเห็นของสังคมได้และมองว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ต้องมาถกเถียงกัน อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า นายทักษิณติดเชื้อโควิดหลังจากลงพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เนื่องจากต้องพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก แต่ฝั่งเรามีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันได้ว่า นายทักษิณป่วยจริง จึงไม่จำเป็นต้องลงไปถกเถียงใดๆ ทั้งนี้ ตนก็ไม่ทราบว่าหลังจากนี้นายทักษิณจะมีอาการป่วยจากโควิดหนักอีกหรือไม่ แต่ตนเองก็อยากให้นายทักษิณหายป่วยโดยเร็ววัน

สำหรับหลังจากนี้จะมีการร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดให้ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีในสำนวนอีกหรือไม่ ทนายวิญญัติชี้แจงว่า ตนไม่สามารถตัดสินใจได้เพียงลำพัง จึงไม่สามารถตอบคำถามได้ในตอนนี้ เพราะต้องปรึกษานายทักษิณและทีมกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทนายวิญญัติกล่าวว่า นายทักษิณพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเองว่า ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ที่ผ่านมาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนตำรวจนายทักษิณก็ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะเป็นคดีข้อหาตามมาตรา 112 และนายทักษิณก็พร้อมที่จะเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่แล้วหากไม่มีเหตุขัดข้องใดๆ แม้ตนจะไม่เคยถามนายทักษิณว่ามีความกังวลในคดีหรือไม่ แต่ตนในฐานะทนายความ ยืนยันว่า ไม่มีความกังวลใจและพร้อมใช้สิทธิ์ต่อสู้คดีทุกวิถีทาง

ส่วนในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ นายทักษิณจะมาพบอัยการตามคำสั่งหรือไม่ ทนายวิญญัติกล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่นายทักษิณต้องเดินทางมาพบพนักงานอัยการ หากไม่มีข้อติดขัดใดๆ เชื่อว่านายทักษิณก็จะเดินทางมาแน่นอน เมื่อคดีถึงชั้นศาลก็เตรียมหลักทรัพย์ที่จะดำเนินการประกันตัวในชั้นศาลต่อไป โดยเน้นย้ำว่า ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาจนถึงที่สุด นายทักษิณก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

ทนายวิญญัติกล่าวชัดว่า ตนมีข้อต่อสู้ที่สามารถนำมาหักล้างกับพยานหลักฐานของทางพนักงานอัยการได้ ตนเข้าใจว่าคำสั่งเห็นควรสั่งฟ้องของอัยการสูงสุดนั้นเป็นไปตามดุลพินิจและการพิจารณาของอัยการสูงสุด แม้ตนจะไม่ทราบเหตุผลของทางอัยการสูงสุดก็ตาม แต่ในฝั่งของตนนั้น มีแนวทางการต่อสู้ที่ชัดเจนที่เตรียมนำไปต่อสู้ในชั้นศาล โดยเฉพาะประเด็นที่มาของพยานหลักฐานในการกล่าวหานายทักษิณที่ไม่สมเหตุสมผล

ซึ่งในประเด็นข้อต่อสู้นี้นั้น ทนายวิญญัติขยายประเด็นเพิ่มเติมว่า คดีดังกล่าวเป็นการแจ้งความโดยทหาร เมื่อปี 2558 ซึ่งในยุคสมัยนั้น ทนายวิญญัติกล่าวว่า ทุกคนน่าจะทราบโดยทั่วกันว่าเป็นยุคสมัยการปกครองแบบใด

โดยคลิปสัมภาษณ์สื่อมวลชนของเกาหลีใต้ที่ถูกนำมากล่าวหาว่า นายทักษิณหมิ่นสถาบันนั้น พบว่าคลิปดังกล่าวไม่ใช่คลิปต้นฉบับ เนื่องจากได้มีการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์และทางเทคโนโลยีแล้ว ผลออกมาว่า เป็นเป็นคลิปที่ถูกตัดต่อ

รวมทั้งได้ตั้งข้อสงสัยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้มีความพยายามที่จะสอบสวนนอกราชอาณาจักรในการแสวงหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้เพื่อหาคลิปต้นฉบับมาตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงหรือไม่ และเหตุใดทางพนักงานสอบสวนถึงไม่พยายามที่จะนำคลิปต้นฉบับมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งตนก็เชื่อว่า คลิปต้นฉบับก็สามารถหาได้โดยง่ายและเกาหลีใต้ก็มีเพียงสำนักข่าวไม่กี่สำนักที่ได้สัมภาษณ์กับนายทักษิณ

ทนายวิญญัติเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า นี่เป็นเพียงแค่ข้อต่อสู้บางส่วนที่จะนำมาต่อสู้ในชั้นศาล เพื่อหักล้างพยานหลักฐานฝั่งโจทก์และยืนยันความบริสุทธิ์ของนายทักษิณ ส่วนข้อต่อสู้นอกเหนือจากนี้ ให้รอติดตามในชั้นศาลต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News