‘ธนาธร’ ชวนคนไทย ไปสมัคร สว.ประชาชน ขอหลักหมื่นคนขึ้นไป สู้ฮั้วจัดตั้ง

‘ธนาธร’ ชวนคนไทย ไปสมัคร สว.ประชาชน ขอมากที่สุด หมื่นคนขึ้นไป สู้ฮั้วจัดตั้ง ปูดชาวบ้านบอก ตอนนี้ค่าเหนื่อยพุ่งหมื่นห้าต่อหัว มอง ตร.ดัง แฉ ป.ป.ช. ก็มาจาก สว.ที่ทำกระบวนการสรรหา มีปัญหา

ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำให้พรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าแถลงข่าวเดินหน้ารณรงค์ “สว.ประชาชน” อย่างเป็นทางการ เชิญชวนประชาชนมาร่วมลงสมัคร สว. เพราะสำคัญกับอนาคตประเทศ

นายธนาธร กล่าวย้อนถึงการเลือกตั้งปี 2562 ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมากมาย โดยเฉพาะประเด็นปิดสวิตช์ สว. ถึง 7 ครั้ง ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา มีครั้งเดียว ที่ได้รับการเห็นชอบจาก สว. คือ การแก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้งสองใบ

นายธนาธร กล่าวว่า แสดงให้เห็นว่า ประเด็นปิดสวิตช์ สว. และประเด็นอื่นๆ ที่มีความสำคัญ ไม่ได้รับความเห็นชอบจาก สว. เลย นี่คือเรื่องใหญ่ของสังคมไทย แม้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ระบอบประยุทธ์ ยังอยู่กับเรา ในรูปแบบของรัฐธรรมนูญปี 2560 จากนั้น นี่คือโอกาสสำคัญ ที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จะเข้าไปมีโอกาสฟื้นฟูประเทศ ซึ่งเราต้องการเสียงหนึ่งในสาม จากเสียง สว. ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่สำคัญ นำพาประเทศไทยกลับไปสู่เส้นทางประชาธิปไตยได้

นายธนาธร กล่าวถึงกรณี ของ ป.ป.ช. ตรวจสอบนาฬิกาหรู ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมตั้งคำถาม ถึงการทำงานของ ป.ป.ช. เอื้อประโยชน์ ในการสืบทอดอำนาจหรือไม่

และ ป.ป.ช. ยังเดินหน้าสอบสวน 44 สส. ก้าวไกล ข้อหาพิจริยธรรม สส. จากการยื่นแก้ไขกฎหมาย 112 ถามว่า ป.ป.ช. ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง นักการเมือง ที่ไม่ได้ทำงานตามที่ตัวเองเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่

นายธนาธร เปิดเผยว่า เป็นเหตุผลว่าทำไม สว. จึงมีความสำคัญ เกือบ 20 ปีของการแบ่งฝ่ายทางการเมือง สิ่งที่สำคัญคือ ปัญหาสองมาตรฐาน ซึ่งหากเราอยากให้การเมืองกลับมาสู่วิถีปกติ กลับมาสู่ระบอบรัฐสภา จึงต้องทำให้องค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระกลับมายืนอยู่บนความยุติธรรมตั้งมั่นด้วยความเป็นธรรม จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นฟื้นฟูประชาธิปไตยในไทยและคนไทยอยู่ด้วยกันอย่างสมานฉันท์ได้ เพราะหากไม่มีความเป็นธรรมไม่มีการสมานฉันท์

สว. ปี 67 ยังมีอำนาจในการแต่งตั้ง องค์กรอิสระ ที่หมดวาระก่อนปี 72 ซึ่งเกินกึ่งหนึ่ง เช่น 7 ใน 9 คน ของศาลรัฐธรรมนูญ 5 ใน 7 คน ของ กกต. 5 ใน 9 คน ของ ป.ป.ช. 6 ใน 7 คน ของ กสม. และ 7 ใน 7 คน ของ กสทช.

ในเมื่อปม พันกันอิรุงตุงนัง ขมวดกัน จนไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ดังนั้น เราสามารถถอดสลักแก้ปมนี้ได้ หากมี สว.ประชาชน สว.ที่ยึดมั่นในประชาธิปไตย เข้าใจดีว่าเป็นข้อเรียกร้องที่สูงมากเพราะต้องให้ประชาชนไปจ่าย 2,500 บาท แต่หากผู้ที่มีศักยภาพ ไม่ลงมือทำในเรื่องนี้ เราก็จะได้ สว.แบบเดิม และยิ่งมีประชาชนจำนวนมากไปเป็น สว.อิสระ จึงต้องอาศัยแรงจากประชาชน เพราะหากเราผลักดันไม่ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก้าวหน้า อีกห้าปีคงจะไม่เกิดขึ้น

นายธนาธร ทิ้งท้ายว่า หากใครสนใจสมัครที่ เว็บไซต์ Senate67.com

จากนั้น นายธนาธร ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีผู้ร้อง ผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบว่าการเลือก สว. ไม่มีแนวทางป้องกันการฮั้ว นายธนาธร กล่าวว่า กระบวนการเลือก เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่พวกเรารณรงค์ ไม่อยากให้เข้าใจอะไรผิด เพราะการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของเรา ให้ประชาชนที่มีศักยภาพ ไปลงสมัคร สว. ส่วนจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ไม่ใช่โจทก์ของเรา เพราะหากประชาชนพร้อม จะเลื่อนไปอีกเมื่อไหร่ก็พร้อม

ส่วนขณะนี้ ในเว็บ Senate67.com มีผู้มาสมัคร หลัก 1,000 คน นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ตัวเลขจริงมีมากกว่านี้ เพราะคนที่มาสมัครมี สว. เชื่อว่า มี 3 ประเภท 1 คนที่อยากเป็นเพื่อผลักดันประเทศ 2 ฉันเป็นก็ได้ ไม่เป็นก็ได้ และ 3 ฉันไม่เป็น สว. แน่นอน แต่ขอลงไปเพื่อโหวตให้คนที่มีศักยภาพที่เหมาะสมเข้าไป มองว่า จำนวนในเว็บ ที่ไม่เข้าชื่อ เพราะไม่จำเป็นต้องประกาศตัวเอง

ส่วนที่ระบุว่า มีกลุ่มฮั้ว ไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ แต่ที่พอรู้มาจากการลงพื้นที่ต่างจังหวัดชาวบ้านก็นำข้อมูลมาว่า ถูกชักชวน เช่นตอนนี้ราคาอยู่ที่ คนละ 15,000+2,500 บาท คือจ่ายค่าเหนื่อย 15,000 บาท บวกค่าสมัคร 2,500 บาท ส่วนในระดับจังหวัด ก็เป็นหลักแสน ในตอนนี้ ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ในข้อเท็จจริง แต่เป็นคำบอกเล่าจากประชาชนที่มาบอกให้เราฟัง

ส่วนเป้าหมายที่ระบุต้องเกิน 70 คน ตั้งเป้าผู้สมัครเท่าไหร่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีใครวัดเป็นปริมาณได้ ว่าเราต้องการได้กี่คน ภายใต้กฎนี้ เราไม่สามารถคำนวณกับต้นทางได้ว่าจำเป็นต้องมีผู้สมัครเท่าไหร่ ดังนั้นคิดว่า ต้องสมัครให้มากที่สุดยิ่งดี แต่ต้องระดับหลักหมื่นขึ้นไป ไม่สามารถระบุชัดเจนตัวเลขได้

ส่วนที่ สว.สมชาย แสวงการ มองว่าการรณรงค์ของก้าวไกล เข้าข่ายฮั้ว มองว่า เรารณรงค์ให้ประชาชนไปสมัครให้เยอะที่สุด ส่วนเขาจะเลือกใครเป็นเรื่องของเขา เชิญชวนให้ไปสมัครให้เยอะกลุ่มอาชีพ เยอะอำเภอ เพื่อที่คนที่จัดตั้งกันมาจะได้ไม่สามารถส่งคนของตัวเองเข้าสู่กระบวนการได้ เพราะถ้าไม่มีคนอิสระเข้ามาเลย หมายความว่าใครจัดตั้งมา ก็เข้าหมดเลย เพราะไม่มีการแข่งขัน

ส่วนกลุ่มที่จัดตั้งคือกลุ่มใด นายธนาธร กล่าวว่า สื่อน่าจะรู้ดีกว่า ประชาชนก็อยากได้ข้อเท็จจริง ซึ่งจากการลงพื้นที่ บางทีก็มีชื่อบางพรรคการเมืองถ้าเกิดหากสื่อ จะทำเจาะทำข่าวนี้ ว่ามีกลุ่มไหนเข้าไปซื้อ ก็จะเป็นคุณูปการต่อประเทศ

ส่วนกรณีที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สาวไส้กรรมการ ป.ป.ช. โยงนายพล เป็นความล้มเหลวขององค์กรอิสระ และผู้แต่งตั้งสรรหาหรือไม่ ว่า แน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้ ชัดเจนว่าการได้มาซึ่งกรรมการในองค์กรอิสระมีปัญหา ในเรื่องกระบวนการจริงๆ ยืนยันว่า หากองค์พระอิสระต่างๆ ครองตน และตัดสินอย่างเป็นธรรม ยึดมั่นในหลักการตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าประเทศไทยดีกว่านี้แต่ ที่เป็นแบบนี้ เพราะไม่มีคนที่ประชาชนให้ความศรัทธา ว่านี่คือความยุติธรรม ถ้าองค์กรอิสระครองไว้ซึ่งความยุติธรรม 10 กว่าปีที่ผ่านมาเชื่อว่า ประเทศไทยไม่เป็นอย่างนี้ ประเทศไทยจะดีกว่านี้ ดังนั้นคำถามนี้แสดงให้เห็นว่าการได้มาซึ่งกรรมการและองค์กรอิสระมีปัญหา และการจะทำให้ไม่มีปัญหา ก็ต้องไปคุยที่คนแต่งตั้ง คนที่มีอำนาจในการแต่งตั้ง มือที่ใช้รับรอง เพราะไม่ใช่ สส. หรือพรรคการเมือง แต่เป็นสมาชิกวุฒิสภา