เลือกตั้งและการเมือง

“ศักดิ์สยาม” พ้นรัฐมนตรี ปมซุกหุ้น ‘บุรีเจริญฯ’

โดย nicharee_m

17 ม.ค. 2567

324 views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงหรือไม่ กรณีถูกร้องว่าใช้นอมินี ถือหุ้น บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น

โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำชี้แจงขอนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ผู้รับหุ้นมีลักษณะกลับไปกลับมาไม่น่ารับฟัง  และเมื่อพิจารณาเส้นทางการเงินพบว่า เงินที่นำมาซื้อหุ้นเป็นเงินที่นำมาจากบริษัทศิลาชัย บุรีรัมย์ จำกัด และมาจากนายศักดิ์สยาม นอกจากนี้มีข้อพิรุธว่า มีการเพิ่มทุนห้างหุ้นส่วนบุรีเจริญฯ จริงหรือไม่

นอกจากนี้มีข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งต่อการทำสัญญา และข้อเท็จจริงเรื่องการขาดสภาพคล่องของบริษัทศิลาชัยฯ ที่ไม่สอดคล้องกับการกู้ยืมเงินของนายศุภวัฒน์ รวมถึงการจัดซื้อเครื่องบินส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของนายศักดิ์สยาม ทั้งๆ ที่บริษัทมีปัญหาสภาพคล่อง

เมื่อพิจารณาจากข้อพิรุธหลายประการ ย่อมมีความน่าเชื่อถือว่า เงินที่นำมาซื้อกองทุน จำนวน 35 ล้านบาท และ 56 ล้านบาท มิได้เกิดจากธุรกรรมการกู้ยืมเงืนหรือการสำรองจ่าย ตามที่นายศักดิ์สยามและพยานบุคคลกล่าวอ้าง จึงเป็นการอ้างเพื่อให้เจือสมกับพยานหลักฐานทางการเงิน

เงินที่นำมาซื้อแม้ไม่ได้มาจากธนาคารของผู้ถูกร้องโดยตรง แต่มาจากบริษัทศิลาชัยฯ และ บุรีเจริญฯ ซึ่งขณะนั้นนายศักดิ์สยามมีอำนาจในการเบิกเงินของทั้งสองบริษัท  

ข้อเท็จจริงทีไ่ด้จากพฤติการณ์แวดล้อมที่พิรุธน่าสงสัยว่าเงินที่นายศุภวัฒน์นำมาลงหุ้นเป็นเงินของนายศักดิ์สยาม

ขณะที่ผ่านมารายได้ของนายศุภวัฒน์ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี และไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานใดที่เห็นถึงการประกอบธุรกิจของนายศุภวัฒน์​ ประกอบกับการที่นายศุภวัฒน์อ้างว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทศิลาชัยฯ​ที่ต้องการเพียงสิทธิประกันสังคม แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่ปี 2564 มีการเพิ่มค่าตอบแทนให้นายศุภวัฒน์เพียง 15,000 บาท ทั้งๆที่เป็นผู้ถือหุ้นบุรีเจริญ​และไม่ได้มีตำแหน่งในบริษัทศิลาชัยฯ จึงเป็นพิรุธ และฟังไม่ได้ว่ามีความสามารถเพียงพอในการชำระค่าหุ้น

ส่วนการบริจาคเงินของนายศุภวัฒน์ให้พรรคภูมิใจไทย ที่นานศักดิ์สยามเป็นเลขาธิการ ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายศุภวัฒน์บริจาคในนามส่วนตัวมูลค่าสองล้านบาท ในป 62 และบริจาคในนามบุรีเจริญฯ สี่ล้านบาท ในปี   62 และหกล้านบาทในปี 65 ซึ่งเป็นช่วงที่หลังจากนายศักดิ์สยามการโอนหุ้นให้นานศุภวัฒน์ ซึ่งก่อนหน้านั้นนายศุภวัฒน์ไม่เคยบรืจาคหรือเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย

ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเสียงข้างมากว่า นายศักดิ์สยามถือหุ้น ซึ่งเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ​ความเป็นรัฐมนตรีจึงสิ้นสุดลง นับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือวันที่ 3 มีนาคม 2566


คุณอาจสนใจ

Related News