เลือกตั้งและการเมือง

เปิดใจ "วัชรพล" 8 ปี กับตำแหน่ง ประธาน ป.ป.ช.

โดย nut_p

1 ธ.ค. 2566

125 views

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หนึ่งในองค์อิสระที่คอยตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ ให้สัมภาษณ์พิเศษเปิดใจกับรายการใต้เตียงการเมือง ช่อง 3 ถึงการทำงานตลอดช่วงเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา และการทำงานใน 1 ปีข้างหน้า ก่อนจะเกษียณเพราะอายุครบ 70 ปี



พล.ต.อ.วัชรพล บอก รู้สึกโชคดีที่ได้บริหารงานด้วยความต่อเนื่อง ตอนแรกที่รับตำแหน่ง เข้ามาตรวจสอบสภาพปัญหาได้เห็นถึงความรวมศูนย์ของระบบราชการ ทำให้ความคืบหน้าในการทำงานเป็นไปด้วยความล่าช้า จึงบอกกับตนเองในใจว่า “เราต้องปรับกลยุทธ์การทำงานแล้ว” โดยใช้หลักการกระจายอำนาจ



“เรากระจายอำนาจ ตั้งเป็น ป.ป.ช. ภาค 9 ภาค ให้สอดรับกับกระบวนการของหน่วยงานอื่น ที่เราทำงานร่วม คือ ตำรวจ อัยการ ศาล และมอบให้กรรมการ ป.ป.ช. แต่ละคนไปกำกับดูแลภาค ดูแลคดีในแต่ละภาค หากเป็นคดีใหญ่ก็ให้ส่วนกลางดูแล เมื่อก่อนมีแค่ส่วนกลาง จึงล่าช้า”



พล.ต.อ.วัชรพล เล่าด้วยความภูมิใจว่า ตอนนี้การกระจายอำนาจถือว่าประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่ส่วนกลางสามารถรับผิดชอบคดีใหญ่ๆ ได้มากขึ้น ตอนนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางและภูมิภาค เป็นการบริหารจัดการที่คุ้มค่า แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ เพราะเรื่องที่ค้างไว้มีเยอะมากและค้างมานาน



ยังมีจุดไหนที่ยังอยากทำในเวลาที่เหลือ



ส่วนเรื่องที่อยากทำในช่วง  1 ปีที่เหลือ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า “ทุกคนจะมองว่าผมเป็นมือปราบ ผมมองว่าปราบก็สำคัญ แต่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าก็คือการป้อง เพราะฉะนั้น แผนแม่บทใหม่ที่ออกมา จึงต้องมีงานป้องเป็นยุทธศาสตร์หลักด้วย และต้องเดินต่อเนื่อง อย่างมีประสิทธิภาพ”



“เราทำอยู่นี่เรียก Out put แต่ Out come อยู่ที่อัยการ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเราก็มีมูล ไปศาล จนกว่าศาลจะพิพากษาถึงที่สุดว่าเขาผิดหรือไม่ผิด และไปสู่กระบวนการสุดท้าย พวกนี้เป็นประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่ง ป.ป.ช. มีกระบวนการติดตามการทำงานไปจนถึงคำตัดสินของศาล แล้วนำเอามาเป็นบทเรียนให้พนักงานไต่สวน เพื่อมาปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น”



ยอมรับ เป็น ป.ป.ช.ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป กลายเป็น “โดดเดี่ยว”



ส่วนการที่ถูกมองว่าเข้ามาเป็น ป.ป.ช. โดยการเลือกของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเป็นอิสระจริงหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล มองว่า การที่ประชาชนตรวจสอบ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้รู้สึกรำคาญใจเดือดร้อนเลย แต่แม้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งช่าติจะแต่งตั้ง แต่โดยกฎหมายจะมีกรรมการสรรหา ที่มีประธานศาลฎีกา ประธานรัฐสภา ผู้นำฝ่ายค้าน เป็นผู้พิจารณา ถ้ากรรมการสรรหาไม่ดำเนินการคงไม่ไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือวุฒิสภา  



ส่วนที่คนมองว่าเป็นคนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.วัชรพล  กล่าวว่า ตนเป็นเลขาฯ พล.อ.ประวิตรเป็นเวลา 1 ปี ตอนนั้นเห็นว่าตนคุมตำรวจ พล.อ.ประวิตรจึงชวนมาทำงาน ซึ่งช่วงที่ตนเป็นทีมงาน มีเรื่องอะไรให้แสดงความเห็นก็ตรงไปตรงมา แต่อำนาจตัดสินใจเป็นของ พล.อ.ประวิตร จากนั้นตนได้สมัครเข้า ป.ป.ช. เนื่องจากตำแหน่งเปิด ตนเห็นว่าจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ พอมาสมัคร บอกตรงๆว่าชีวิตเปลี่ยนไป จากที่เป็นนายตำรวจ ใช้ชีวิตสบายๆ เพื่อนฝูงเยอะ กลายเป็นอยู่โดดเดี่ยว ซึ่งไม่ใช่โดดเดี่ยวเฉพาะตัวเรา แต่ทั้งครอบครัว ลูกของตนเป็นนักร้องยังต้องระวังตัว



“ผมทำงานกับ พล.อ.เภา สารสิน คนที่ได้รับยกย่องว่าซื่อสัตย์ที่สุดในตำรวจของประเทศไทย มาตั้ง 29 ปี ทำไมไม่มีคนพูดถึง ผมอยู่กับ พล.อ.ประวิตรปีเดียว”


องค์พระปฏิมา ยังราคิน เชื่อ หากทำดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครอง



เมื่อถามว่าคนยังจำว่าเป็นคนของ พล.อ.ประวิตร จะกลายเป็นตราบาปหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล ย้อนถามกลับว่า เคยได้ยินว่าแม้แต่องค์พระปฏิมายังราคินหรือไม่ เป็นธรรมดา มนุษย์ไม่มีใครเพอร์เฟค ผมก็ไม่เพอร์เฟค มีข้อดีข้อเสีย แต่เราต้องทำในสิ่งถูกต้อง เชื่อว่าถ้าเราทำดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครอง ไม่ห้ามที่ใครจะตำหนิ กลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เราคอยระมัดระวังตัวเองเสมอว่าไม่ไปเกลือกกลั้วกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมย้ำกับลูกชาย (โอม ปัณฑพล  นักร้องนำวงค็อกเทล) เสมอว่าถ้าทำอะไรไม่ดี คุณไม่ใช่นายปัณฑพล โอม ค็อกเทลแล้ว แต่เป็นลูก พล.ต.อ.วัชรพล ประธาน ป.ป.ช.



พล.ต.อ.วัชรพล ยังพูดถึงลูกชายอีกว่า ตนเคารพความคิด ยินดีในอาชีพของลูก แม้จะเป็นนักร้องแต่ก็มีความรู้ เป็นผู้บรรยาย เป็นอาจารย์ เขาเห็นชีวิตพ่อที่เหนื่อยยากมา ดังนั้นเขาต้องระวัง การเป็นลูกผู้ใหญ่ อภิสิทธิ์จะน้อยลง เป็นประชาชนธรรมดาดีกว่า



ยืนยัน คิดไม่ผิด มาเป็น ป.ป.ช.



เมื่อถามว่าตัดสินใจผิดหรือไม่ที่มาเป็น ป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล บอก ตนภูมิใจที่ได้มาทำงานตรงนี้ ได้มาช่วยกันขับเคลื่อนงาน ตอนนี้กำลังช่วยให้ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้มาทำงานที่ ป.ป.ช. ถ้าไม่ภาคภูมิใจจะมีพลังในการทำงานให้ประเทศได้อย่างไร



เรื่องโดย ธัญวัฒน์ พิวัฒน์เมธา

คุณอาจสนใจ

Related News