‘ปานปรีย์’ เยือนเวียดนาม นั่งหัวโต๊ะคุยสภาหอการค้าฯ เล็งขออำนวยความสะดวกการลงทุนในเวียดนาม

‘ปานปรีย์’ เยือนเวียดนาม นั่งหัวโต๊ะคุยสภาหอการค้าไทยในเวียดนาม เล็งขอเวียดนามอำนวยความสะดวกการลงทุน

ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม วันนี้เวลา 09.30น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปยัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  โอกาส เดินทางเยือนเวียดนาม อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25 - 26 ตุลาคม 2566 ตามคำเชิญของนายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ก่อนเข้าร่วมการประชุม OECD Southeast Asia Ministerial Forum ประจำปี 2566 ณ กรุงฮานอย

นับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการในโอกาสครบรอบ 10 ปี ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับเวียดนามในปีนี้

ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือกับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม (ThaiCham) ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเปิดและมอบนโยบาย กับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม โดยยินดีที่ได้ทราบว่า ThaiCham มีการดําเนินกิจกรรมอย่างแข็งขันและต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในหอการค้าไทย ในต่างประเทศที่เข้มแข็งที่สุด

พร้อมรับฟังเกี่ยวกับการลงทุนของไทยในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศเป้าหมายอันดับต้นๆ ของนักลงทุนไทย เพื่อนำประเด็นในการหารือไปผลักดันกับรัฐบาลเวียดนามเป็นการเฉพาะ นอกเหนือจากการขอให้รัฐบาลเวียดนามสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน รวมทั้งให้การดูแลและสนับสนุนการลงทุนของไทยในภาพรวม ก่อนจะนําไปประกอบการหารือกับนายกรัฐมนตรีเวียดนามในบ่ายวันนี้  รวมทั้งกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ด้วย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ไทยและเวียดนามมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด รัฐบาลทั้งสองฝ่ายให้ความสําคัญกับการส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างกัน และการทําให้สองประเทศเติบโตไปด้วยกัน และเวียดนามยังต้องพึ่งพาการนําเข้าส่วนประกอบและวัตถุดิบจากไทยมาผลิตเพื่อการส่งออก ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเชื่อมโยงของ supply chains ระหว่างสองประเทศ และประโยชน์ที่สองประเทศมีร่วมกัน

พร้อมขอให้ ThaiCham ทํางานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย อย่างใกล้ชิดต่อไป ในการเป็น “กระบอกเสียง” ให้แก่นักลงทุนไทยในเวียดนาม

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าว ยังขอให้นักลงทุนไทย ให้สําคัญกับกิจกรรมด้าน CSR อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็น การส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรในการเป็น “นักลงทุนคุณภาพ” แต่ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทย และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนามในภาพรวม

จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดรับฟังมุมมองจาก สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม เกี่ยวกับการลงทุนในเวียดนาม โดยหากมีประเด็นใดที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนได้ ก็พร้อมจะช่วยผลักดันและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อไป