‘หมออ๋อง’ เปิดตัวซบพรรคเป็นธรรม ‘กัณวีร์’ ยืนยัน ไม่ใช่พรรคสาขาของก้าวไกล

“พรรคเป็นธรรม” แถลงเปิดตัว “หมออ๋อง ปดิพัทธ์” รองประธานสภาฯ และอดีต สส.พรรคก้าวไกล หลังถูกขับออก“กัณวีร์” ยืนยัน ไม่ใช่พรรคสาขา 2 ของ “ก้าวไกล” ด้าน “หมออ๋อง” แจง เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์และแนวทางใกล้เคียงกันมากที่สุด

10 ตุลาคม 2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พร้อมด้วยนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม และนายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ร่วมกันแถลงเปิดตัว นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เข้าเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม หลังจากพรรคก้าวไกลมีมติขับออกให้พ้นจากสมาชิกภาพ เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มตัว

นายปดิพัทธ์ ระบุว่า สาเหตุที่เลือกพรรคเป็นธรรมเป็นเพราะมีอุดมการณ์ แนวทางใกล้เคียงกันมากที่สุด ทั้งกับพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ที่นายปดิพัทธ์เคยสังกัด และขอขอบคุณหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ที่มีน้ำใจ เพราะรู้ดีว่าการทำงานของตนต้องเผชิญกับความเสียดทาน ทั้งการปฏิรูปสภาให้โปร่งใส และการผลักดันวาระก้าวหน้า และนโยบายที่ตนเคยแถลงไว้

นายปดิพัทธ์ ระบุอีกว่า วันนี้ยังไม่ได้มีการสมัครในทางกฎหมาย เนื่องจากอยู่ระหว่างรอหนังสือยืนยันการพ้นสมาชิกภาพจาก กกต.

ด้านนายปิติพงศ์ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ระบุว่า ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีของพรรค และภูมิใจที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากรองประธานสภาฯ ที่มาร่วมทำงานกับพรรค โดยพรรคเป็นธรรมจะทำงานตามอุดมการณ์ของพรรคคือ ประชาธิปไตย ประเทศชาติ และประชาชน

นายปิติพงศ์หวังว่า การทำงานของพรรคเป็นธรรมจะมีบริบททางด้านการบริหารกิจการสภาเพิ่มมากขึ้น จากการบริหารของฝ่ายค้าน


ส่วนนายกัณวีร์ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ระบุว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นายปดิพัทธ์ ร่วมทำงานกับพรรค โดยการทำงานจะชัดเจน สร้างการเมืองที่ตรงไปตรงมา และไม่บิดเบี้ยว ตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทั้งหมดต้อง โปร่งใส เป็นกลาง เป็นธรรม จะไม่มีอะไรมาขัดขวางการเดินหน้าของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย รวมถึงพรรคเป็นธรรมจะทำงานแบบพรรคร่วมฝ่ายค้านเชิงรุก ตรวจสอบและถ่วงดุล ให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



เมื่อถูกสอบถามว่า กังวลว่าจะถูกมองว่าเป็นพรรคสาขาของพรรคก้าวไกลหรือไม่?



นายกัณวีร์ชี้แจงว่า ชัดเจนตั้งแต่ต้น ตอนหาเสียง พรรคก้าวไกล และพรรคเป็นธรรมต่อสู้กันมา และย้ำว่า ไม่ใช่พรรคสาขา แต่เป็นพรรคร่วมอุดมการณ์ เพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศไทย นอกจากนี้นายกัณวีร์มองว่า คำถามนี้ไม่น่าออกมาโดยสังคม



นายปิติพงศ์เสริมว่า อยากเห็นการเมืองประชาธิปไตยแบบใหม่ อยากให้เป็นการย้ายพรรคด้วยอุดมการณ์ ไม่มีเรื่องอามิสสินจ้าง หรือระบบกล้วยเหมือนแต่ก่อน และพรรคเป็นธรรมไม่ได้ไปตกปลาในบ่อของพรรคก้าวไกล



พร้อมย้ำอีกว่า ไม่ได้เป็นพรรคสาขา แต่อยู่หมู่บ้านประชาธิปไตยด้วยกัน มีบ้านคนละหลัง กินข้าวคนละชาม เพียงแต่ชามนี้อาจไม่อร่อยเหมือนพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคเกิดใหม่ แต่ก็ไม่ถึงขนาดข้าวคลุกน้ำปลา



นายปดิพัทธ์ปิดท้ายว่า บรรยากาศในการทำงานขณะนี้ดีขึ้น นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ก็มีท่าทีสนับสนุน และเคารพการตัดสินใจ สำหรับตนเคารพนายอดิศรเสมอ มีคำแนะนำหรือท่าทีอะไร ก็พร้อมจะน้อมรับ



ส่วนที่เลือกพรรคเป็นธรรม เพราะพรรคเป็นธรรม จริงใจที่สุด เปิดรับที่สุด มีแนวทางที่ใกล้เคียงที่สุด เมื่อตนเองลงพื้นที่ที่จังหวัดพิษณุโลก ถ้าเดินตลาด คำพูดที่ทักทายตนคือ อย่าออก เพราะชาวพิษณุโลกต้องการให้ตนดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ต่อไป