เลือกตั้งและการเมือง

‘หมอพรหมินทร์’ ยันใช้เงินรอบคอบ แจกดิจิทัล 1 หมื่นบาท ใช้งบ 5 แสนล้าน เทียบรัฐบาลก่อนกู้ 1.5 ล้านล้านบาท

โดย nicharee_m

10 ต.ค. 2566

64 views

‘หมอพรหมินทร์’ โต้คนวิจารณ์เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท บอกทำอย่างรอบคอบ ยึดวินัยการเงินการคลัง เชื่อใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศโต ก่อนยกเทียบรัฐบาลก่อนกู้ 1.5 ล้านล้านบาท

10 ต.ค.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำสัปดาห์ นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีการวิพากษ์วิจารณ์ โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า เป็นเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งในนโยบายทั้งหมด เมื่อเทียบกับต่างประเทศจะพบว่า ประเทศต่างๆ กำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เดินหน้าไปมากกว่าเรา แต่ไทยเดินหน้าไปอย่างช้าๆ แม้กระทั่งไตรมาสที่ผ่านมาต่ำกว่าเป้า แสดงว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดีอย่างที่มีการพูดกัน พร้อมขอให้ลองไปถามประชาชน

โดยนายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา จาก 5% ตกลงมาเหลือ 0.3% แสดงให้เห็นว่าความต้องการน้อยลง แต่อัตราดอกเบี้ยจะต้องขึ้นสูงขึ้น เป็น 2.25 และ ทำให้ภาระต่างๆ ตกไปอยู่ที่ประชาชน ทำให้เกิดหนี้สินต่างๆ ต้นทุนของผู้ประกอบการก็เพิ่มขึ้น ที่สำคัญจะทำอย่างไรให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ดิจิทัลจึงเป็นอีกหนึ่งมาตรการ ซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสิ่งเกี่ยวโยง เมื่อภาระของประชาชนสูงขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องลดค่าใช้จ่าย ด้านพลังงาน ทั้งการลดราคาพลังงาน และลดหนี้เกษตรกรที่ทำมาแล้ว

แต่ขณะเดียวกันอีกด้านเราก็ต้องสร้างรายได้ อย่างมาตรการระยะสั้นเห็นจากเรื่องการดันผลักดัน Soft Power ทำให้ประชาชนเกิดรายได้สูงขึ้น ขณะเดียวกันนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำลังปลดเรื่องกฎหมายที่เป็นภาระ เพื่อทำให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบธุรกิจได้ง่ายขึ้น

ส่วนจะมีการเปิดเวทีให้รัฐบาลได้ชี้แจงหรือไม่นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ได้มีการชี้แจงไปแล้วหลายเวที อย่างเมื่อวานนี้ทางกระทรวงการคลังได้มีการแถลงข่าวไปแล้ว เพื่อทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศจะมีการเจริญเติบโตขึ้น แน่นอนที่สุดว่าภารกิจของรัฐบาล จะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ทุกคนยังเป็นหนี้เป็นสิน จะเห็นได้ว่าในช่วงรายปีที่ผ่านมา หากไปดูสถิติที่ครัวเรือน ไต่สูงขึ้นถึง 90% แสดงว่าปัญหาของประชาชนนั้นหนัก ส่วนจะแก้อย่างไรถือเป็นความท้าทาย หรือจะอยู่เฉยๆจนถาวรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่หากเปลี่ยนเป้าหมาย ในการดำเนินโครงการ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เป็นหนี้ไปแล้ว ทุกคนเปราะบางไปแล้วหรือยัง แน่นอนว่า การจัดการมีหลายวิธี ให้ความเท่าเทียมกัน และขณะนี้อย่าลืมว่าผู้ที่มีรายได้มากที่จะซื้อของ หากจะซื้อของเพียง 1 บาท ก็จะมีการซื้อประกบอีกหลายส่วน

เมื่อถามยามว่าจะมีการเปลี่ยนเงื่อนไขจ่ายให้เด็กอายุ 16 ปีหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ย้อนถามกลับว่า เปลี่ยนทำไมครับ เนื่องจากเงื่อนไขที่เราตั้งเพื่อที่จะให้ประโยชน์ทั้งหมดที่เคยประกาศไว้ สิ่งสำคัญคือจะจัดการบริหารอย่างไร ทิศทางเรามีอยู่แล้ว เรื่องบริหารการเงินจะทำอย่างไร และที่ผ่านมารัฐบาลไทยรัฐไทยทำให้ประเทศมีหนี้เกือบล้มละลาย และสามารถคืนหนี้ได้ทั้งหมด พร้อมย้ำว่าเรายึดมั่นในวินัยการเงินการคลัง

เมื่อถามว่าแล้วจะตอบประชาชนได้อย่างไร นายแพทย์พรหมินทร์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ให้ทุกคนเท่าเทียมกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิทธิเท่ากัน คนที่เลือกจะไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร ส่วนคนที่จะใช้ก็ถือว่าเป็นสิทธิ

ขณะเดียวกันนายแพทย์พรหมินทร์ยังระบุอีกว่า รัฐบาลที่ผ่านมามีการกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท เราใช้ 500,000 ล้านบาท ผมคิดว่าเราใช้อย่างระมัดระวัง และรู้ว่าเม็ดเงินที่ลงไปจะทำให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ก่อนที่จะกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ยังมีอีกหลายมาตรการไม่ใช่มาตรการเดียว

คุณอาจสนใจ

Related News