นายกฯ บุกด่วน! ตรวจดูปริมาณน้ำกรมชลฯ ไม่แจ้งล่วงหน้า ห่วงน้ำท่วมภาคอีสาน สั่งเร่งระบายน้ำ

นายกฯ บุกด่วน กรมชลประทาน ห่วงน้ำท่วม โดยเฉพาะอุบล สั่งเร่งระบายน้ำ บอกอีก 10 วัน จะลงพื้นที่ด้วยตัวเอง ลั่นเข้าใจทุกคนทำงานหนัก แต่ขอให้ทุกคนทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เมื่อเวลา 10.10 น.ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเยี่ยมชมงาน OTOP Midyear 2023 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังกรมชลประทานสามเสน เพื่อตรวจดูระดับน้ำและการไหลของน้ำว่าปัจจุบันมีปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจากภาคเหนือ ที่ห้องปฏิบัติการรวม โดยการเดินทางไปครั้งนี้ไม่ได้มีกำหนดการล่วงหน้าแต่เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณน้ำเนื่องจากมรสุมและฝนตกลงมาหนักทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณกว้างในพื้นที่ภาคอีสาน

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมรับฟังบรรยากาศสถานการณ์น้ำที่ จากนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ที่กรมชลประทาน สามเสน เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณน้ำ จากมรสุมและฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณกว้างในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน

อธิบดีกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์ว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ทั่วประเทศยังมีปริมาณน้อยกว่าปี 2565 ซึ่งปริมาณน้ำใช้การได้ทั้งประเทศในปี 2566 ขณะนี้มีอยู่ที่ราว 2,500 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปี 2565 ถึง 5000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอ่างเก็บน้ำ และเขื่อนหลักทั่วประเทศ ยังสามารถรับน้ำได้อีกมากถึง 2600 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ปริมาณน้ำใช้ได้ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำที่ต่ำกว่าเกณฑ์ 30% ของความจุอ่าง 6 แห่ง ประกอบไปด้วย อ่างเก็บน้ำปราณบุรี, อ่างเก็บน้ำกระเสียว, อ่างเก็บน้ำทับเสลา, อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ และอ่างเก็บน้ำภูมิพล ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยังไม่ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์น้ำโดยเฉพาะในพื้นที่อุบลราชธานี เนื่องจากได้รับรายงานจาก สส. ในพื้นที่ว่าขณะนี้มีปริมาณน้ำที่ค่อนข้างมาก ซึ่งอีกประมาณ 10 วัน จะลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อไปติดตามสถานการณ์น้ำ

ด้านร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่จังหวัดอุบลราชธานีเนื่องจากเกิดปัญหาการระบายน้ำบริเวณแก่งสะพือ ซึ่งจะต้องทำบายพาสแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน นายกรัฐมนตรีจึงกำชับว่าขอให้เร่งแก้ปัญหานี้ เนื่องจากร้อยเอกธรรมนัสรู้ปัญหานี้อยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าปริมาณฝนในปีนี้ตกช้ากว่ากำหนดไปประมาณ 1 เดือน ก็หวังว่าฝนจะตกช้าไปอีก 1 เดือน เพื่อให้สามารถเก็บน้ำได้

อธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงต่อว่า จากการรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ฝนจะตกถึงช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น หากจะตกก็จะตกอยู่ที่บริเวณท้ายเขื่อนทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ขณะเดียวกันมวลฝนจะเคลื่อนที่ไปยังภาคใต้ ซึ่งในส่วนพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีไล่ลงไป ได้เตรียมการรับมือน้ำท่วมน้ำหลากไว้แล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สอบถามว่าพื้นที่ภาคตะวันออกขณะนี้มีปัญหาเรื่องน้ำหรือไม่ ซึ่งอธิบดีกรมชลประทานได้บอกว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากได้ระบายน้ำ ส่วนเกินจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองไชยยานุชิด ไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี

นายกรัฐมนตรีถามย้ำอีกครั้งถึงภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำทั้งหมด โดยเน้นไปที่จังหวัดภาคอีสาน ปัญหาซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่มีปัญหาเช่นกัน พร้อมระบุนายกรัฐมนตรีจะได้ฝากให้ดูแลพร้อมรับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปมอบนโยบายให้ข้าราชการกรมชลรับประทานทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์ พร้อมขอบคุณที่ทุกคนช่วยกันระวัง เพราะเป็นห่วงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ แต่ก็เข้าใจเป็นเรื่องที่ควบคุมยาก ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ขอฝากกรมชลประทาน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังทุกช่วงเวลา เข้าใจว่าทุกคนทำงานหนัก ขอให้ทุกคนทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากสถานการณ์น้ำก็สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ และการเกษตร คงไม่ต้องย้ำอะไรมาก เพราะทุกคนต่างเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่ขอให้เข้าใจว่าหากมีรัฐมนตรีมากวดขัน ก็เป็นเพราะมาจากนายกฯ สั่งการ พร้อมขอให้วางแผนระยะกลาง ระยะยาว จะพยายามติดตาม และลงพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น