'ชวน' แนะ 'ประชาธิปัตย์' ยอมรับความจริงว่าพ่ายแพ้ ให้หันมาสร้างพรรคใหม่

นายชวน หลีกภัย ระบุว่าวันที่ 21 ส.ค. ตนออกมาจากตรังตอนตีสี่ครึ่ง เพื่อให้ทันในที่ประชุมบรรยากาศก็ดี คนแรกที่แจ้งคือ พล.ต.ต.สุรินทร์​ ปาลาเร่  และบอกว่า ปชป. ไม่ร่วมรัฐบาล ต้องลงมติไม่รับ และมาคุยว่าจะงดออกเสียงหรืออย่างไร

นายชวนบอกต่อว่า ในที่ประชุมหัวหน้าพรรค แจ้งว่า เมื่อมีรัฐบาลก็ต้องมีฝ่ายค้าน ตนเลยขออนุญาตว่าสำหรับตน ตนขอลงมติไม่รับ และให้เหตุผลว่าตนสู้กับพรรคการเมืองเหล่านี้ในเรื่องที่เลือกปฏิบัติต่อภาคใต้ และจังหวัดที่ไม่เลือกเขา

เราสู้เรื่องนี้และบอกประชาชน ชาวบ้านในภาคใต้ก็ไม่น้อยปฏิบัติตามที่ผมแนะนำ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ สส. เลย แต่เขาไม่ได้เลยสามสมัย  ดังนั้นในส่วนตัว เราทำขนาดนี้และประชาชนกรุณาทำตามที่เราแนะนำ หากทำเท่ากับเราทรยศต่อคนภาคใต้   ซึ่งที่ประชุมไม่ขัดข้อง ต่อมาโฆษกก็แถลงอย่างนี้จากนั้นตนได้ขอออกไปก่อนเพื่อไปงานศพที่วัดธาตุทอง วันนั้นไม่มีใครวอล์กเอาท์

พรรคไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ แต่พฤติกรรมคนก็อีกเรื่อง  ตนเคยเป็นผู้นำฝ่ายค้านสามสมัย เป็นนายกฯ สองสมัย เราทำหน้าที่อะไรก็ทำให้สมบูรณ์ ระหว่างทำหน้าที่รัฐบาล การตรวจสอบก็ทำได้ผล สามารถตรวจสอบการโกงกิน การทำหน้าที่ฝ่ายค้านไม่ใช่ไม่มีความหมาย  แนวทางประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ประชาชนหวังพึ่ง แม้ระยะหลังได้คะแนนน้อยมาก  แต่คะแนนที่ได้มาก็บริสุทธิ์ ยุติธรรมและตอบแทนบุญคุณประชาชน

ช่วงหลังเราอาจแพ้มากที่สุด ซึ่งไม่เคยได้อย่างนี้ 25 เสียง กทม.​ไม่ได้เลย ขนาด 6 ต.ค.​ยังได้คนนึง ตนก็บอกว่าไม่โทษใคร เพราะกรรมการบริหารเราเลือกเอง แต่ว่าต้องมาทบทวนว่าเราจะฟื้นพรรคอย่างไร ไม่ควรร่วมรัฐบาล แต่ควรทบทวน เรากก็หวังว่าคนรุ่นต่อไป โดยตนเป็นคนรุ่นสุดท้ายเที่ยวนี้ระบบแพ้หมด ยอมรับความเป็นจริงและมาสร้างพรรคกันใหม่ ใครที่มีกำลังก็ช่วยกันไป  เราทุกคนพึ่งพาได้ พฤติกรรมส่วนบุคคลเป็นอย่างไรก็มีกติกา กฎเกณฑ์อยู่  

ส่วนการขับ 16 สส. นายชวนกล่าวว่า เป็นเรื่องของกรรมการบริหาร ที่จะตรวจสอบต่อไปและให้ชี้แจงเรื่องนี้ว่าผู้ที่ลงมติจะชี้แจงอย่างไร พวกตนไม่มีขั้ว เพราะเลือกกรรมการชุดนี้เพื่อให้การเมืองสุจริต เราอยู่มาได้ 77 ปี ไม่ใช่เพราะโกงเก่ง

เมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึง สส.​ที่อยากเป็นรัฐบาล นายชวนกล่าวว่า ไม่ผิดอะไรแต่กระบวนการต้องผ่านการประชุมเหมือนเที่ยวที่แล้ว ตอนก้าวไกลที่งด เพราะตอนนั้นไม่มีการประกาศว่าไม่เอาประชาธิปัตย์ แต่คราวนี้นายเศรษฐาบอกว่าไม่เอาประชาธิปัตย์