เลือกตั้งและการเมือง

‘สว.สมชาย’ ขอรอฟัง ‘เพื่อไทย-พรรคร่วมฯ’ แถลงบ่ายนี้ หาก ‘เศรษฐา’ ชี้แจงคุณสมบัติได้ก็โหวตผ่าน

โดย chutikan_o

21 ส.ค. 2566

61 views

‘สว.สมชาย’ ขอรอฟัง ‘พท.-พรรคร่วมฯ’ แถลงบ่ายนี้ หาก ‘เศรษฐา’ ชี้แจงคุณสมบัติได้ ก็โหวตนายกฯ ผ่าน ไม่ถึงขั้นเสนอ ‘บิ๊กป้อม’ เชื่อ ‘ทักษิณ’ กลับบ้านไม่มีนัยยะอะไร

วันนี้ (21 ส.ค. 2566) ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สว. กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ว่า ต้องรอดูการแถลงในช่วงบ่ายวันนี้ก่อนว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ส่วนกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันว่า จะส่งชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ นั้น หากยืนยันว่าเป็นนายเศรษฐาก็พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรา 88 และ 89 รวมถึงมาตรา 160 ด้วย ส่วนตัวขอรอฟังการแถลงข่าวก่อนว่า ชื่อที่ถูกเสนอจะมีคุณสมบัติอย่างไร มีพฤติกรรมทางจริยธรรมเหมาะสมหรือไม่ ยืนยันว่า สว.ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 หากวันนี้นายเศรษฐามาแถลงด้วยก็คงจะดี แต่ก็ไม่รู้ว่านายเศรษฐาจะมาด้วยหรือไม่ เพราะครั้งที่แล้วนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ได้มาแถลงจัดตั้งรัฐบาล เราจะได้รู้ รวมถึงเรื่องที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ตรวจสอบก็ค่อนข้างจะร้ายแรง ย้ำว่ารับฟังทั้งหมด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะการแถลงข้อมูลให้ประชาชนรับทราบต้องการคำอธิบาย เนื่องจากอาจจะเกิดปัญหาในเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต แต่หากนายเศรษฐาสามารถชี้แจงได้ว่า เรื่องที่นายชูวิทย์กล่าวหานั้น ทั้งในเรื่องของบริษัทนอมินีและกรณีที่แม่บ้านไปซื้อที่ดิน ก็เห็นเพียงเอกสารไปยังไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการ “ฉ้อราษฎร์บังหลวง” หากมีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นต่อประชาชน ถือว่าเป็นการ “ฉ้อราษฎร์” ส่วน “บังหลวง” คือการได้ประโยชน์จากรัฐ จึงมองว่าหากชี้แจง สว.ในกรณีข้างต้นได้ สว.ก็โหวตให้ผ่าน แต่หากชี้แจงไม่ได้ สว.ก็ไม่โหวตผ่านให้

นายสมชาย กล่าวต่อว่า รอดูว่าในเวลา 14.00 น.นี้ จะมีพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้าง เรื่องที่สำคัญ อาจจะไม่ใช่เรื่องหลัก แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนควรรู้ คือ นโยบายร่วมของแต่ละพรรค เพราะที่ผ่านมานโยบายของแต่ละพรรคก็แตกต่างกัน ทั้งนโยบายประชานิยม เศรษฐกิจ และอื่นๆ จะทำอย่างไรให้หลอมรวม สลายขั้ว เพื่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินหน้าต่อไป

ส่วนข้อกังวลของ สว. ก่อนหน้านี้ นายสมชาย กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลน่าจะมีคำตอบในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยที่ไม่ต้องทำประชามติใหม่ เป็นการประหยัดงบประมาณ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ใช้เงินในการทำประชามติ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งครั้งนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครจะเข้ามาเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) หรืออาจเป็นนอมินีของพรรคการเมืองหรือไม่ และผู้ทรงคุณวุฒิจะเป็นผู้ที่เคยเสนอสิ่งสุดโต่งของรัฐธรรมนูญเหมือนที่เคยเผยแพร่ออกมาหรือไม่ จนทำให้กระทบต่อหมวด 1 และหมวด 2 เพราะหากเป็นเช่นนั้น ประเทศจะไปต่อไม่ได้ และจะนำไปสู่ความขัดแย้ง ส่วนตัวขอเสนอว่า ถ้าอยากให้การโหวตนายกฯ ได้รับความเห็นชอบ ก็ไม่จำเป็นจะต้องแถลงให้เป็นวาระแห่งชาติ และไม่จำเป็นจะต้องเป็นวาระแรกในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เมื่อถามว่า มองว่าการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับบ้านในวันเดียวกับที่มีการโหวตนายกฯ เป็นนัยยะอะไรทางการเมืองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มี หากนายทักษิณจะกลับบ้านก็กลับได้อยู่แล้วเพราะเป็นคนไทย ซึ่งที่ผ่านมานายทักษิณก็ออกมาบอกว่าจะกลับบ้านหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่กลับ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ในสภาก็ว่ากันไป การโหวตนายกฯ ไม่มีผล หากนายทักษิณยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถือว่าเป็นการประณีประนอม เพื่อสลายขั้วอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ยอมรับว่า ได้พูดคุยเรื่องดีลลับที่สิงคโปร์จริง ขึ้นอยู่กับการแถลงข่าวบ่ายนี้ ว่าจะดีลกันอย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าแคนดิเดตนายกฯ ตัวจริง จะไม่ใช่นายเศรษฐา แต่เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสมชาย กล่าวว่า เราไม่เคยปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และไม่ได้มีปัญหากับพรรคเพื่อไทย มองว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องเสนอแคนดิเดตนายกฯ ทั้งสามคนของพรรคอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายเศรษฐา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ นายชัยเกษม นิติศิริ ส่วนตัวจึงมองว่าจะยังไม่ไปไกลถึงขั้นเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร แต่หากไม่เสนอแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ก็จะเหมือนกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ เสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นนายกฯ

เมื่อถามว่า หากเทียบกรณีของนายเศรษฐา กับกรณีที่นายพิธาถูกกล่าวหา นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ก้าวล่วง หากชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา แต่นายเศรษฐาก็ควรออกมาชี้แจง เพราะนายพิธาก็เคยออกมาชี้แจงแล้วเช่นกัน แต่หากนายเศรษฐายังไม่ชี้แจงให้ชัดเจน ในสภาก็อาจจะมีการอภิปรายในกรณีนี้ ซึ่งอาจเกิดความเข้าใจผิด และส่งผลต่อการโหวตไปในทางลบ

คุณอาจสนใจ

Related News