แท็กซี่ภูเก็ตบุกหา 'ส.ส.ก้าวไกล' ไม่พอใจใช้คำเหมารวม "แท็กซี่มาเฟีย" อภิปรายในสภาฯ

กลุ่มแท็กซี่ภูเก็ต บุกที่ทำการพรรคก้าวไกล เขต1 จ.ภูเก็ต ไม่พอใจใช้คำเหมารวม "แท็กซี่มาเฟีย" อภิปรายในสภาฯ วอนจัดการรถไม่จดทะเบียนวิ่งเต็มเมือง



วันนี้ (11ส.ค.66) บริเวณหน้าที่ทำการพรรคก้าวไกล เขต1 จ.ภูเก็ต ได้มีกลุ่มตัวแทนแท็กซี่ภูเก็ต เข้าชี้แจงถึงกรณีที่ทาง สส.พรรคก้าวไกล เขต1 ภูเก็ต ได้นำคำว่า "แท็กซี่มาเฟีย" ไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระบุ อยากให้มีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน และฝากให้ สส.และทีมงานทำการบ้านให้ดีกว่านี้ รวมทั้ง หาข้อมูลเกี่ยวกับคำว่า "มาเฟีย" เสียก่อน เพราะว่าไม่เคยมีใครเอาคำว่า มาเฟียภูเก็ต เข้าไปพูดในสภาฯ ซึ่งจุดนี้ทางผู้ประกอบการแท็กซี่ในพื้นที่เอง ก็ต่างไม่พอใจมาก และได้รับผลกระทบ เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็น "มาเฟีย"



โดยตัวแทนกลุ่มแท็กซี่ ยังได้กล่าวอีกว่า อยากฝากให้ สส.ให้ลงไปตามคิวต่างๆ ตามพื้นที่ต่างๆ เช่น ป่าตอง กมลา กะตะกะรน ราไวย์ และในตัวเมือง เป็นต้น เค้าก็มีคิว ที่สังกัดสมาคม-ชมรม ผู้ประกอบการรถรับจ้างฯ อยู่ ตรงนี้ก็สามารถตรวจสอบได้ และตามข่าวที่เกิดขึ้นในภูเก็ต ก็คิดว่าเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แท็กซี่ที่ดีๆ ที่ตั้งใจทำมาหากิน ก็มีอีกเยอะ ฉะนั้นจะเหมารวมไม่ได้ว่าแท็กซี่ภูเก็ตไม่ดี หรือเป็นมาเฟีย

พร้อมฝากไปถึง สส.ให้ดำเนินการจัดการ กับรถที่ผิดกฎหมาย รถที่ผิดประเภท ที่นำมารับส่งผู้โดยสาร เช่น รถป้ายดำไม่จดทะเบียน รถป้ายต่างจังหวัด และรถผิดประเภท อย่างกระบะ เป็นต้น ที่นำมารับวิ่งผู้โดยสารอยู่ตอนนี้ ซึ่งปัจจุบันก็เห็นได้ทั่วไป และพบจำนวนมากขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งอยากให้ควบคุมการจด รย.18 ด้วยเพราะว่าตอนนี้ รถในภูเก็ตก็มีมาก จนไม่มีถนนจะให้วิ่งแล้ว



ว่าที่ ร.ต.สมชาติ เตชถาวรเจริญ (ทนายเก่ง) สส.พรรคก้าวไกล เขต1 ภูเก็ต เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณพี่น้องชาวบ้านผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ที่มาในวันนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสดี ที่จะได้ชี้แจงสิ่งที่ไปอภิปรายในสภาฯ ว่า แท้จริงแล้วมันเกิดจากอะไร ซึ่งวันนี้ปัญหาของการท่องเที่ยวภูเก็ต ที่ทำให้เสียบรรยากาศ ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ที่ปรากฏเป็นข่าว ตามหน้าสื่อต่างๆ ก่อนหน้านี้ “ซึ่งก็ไม่ได้เหมารวมถึงแท็กซี่ทั้งจังหวัด แต่ หมายถึงคนที่มีพฤติกรรมข่มขู่ ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ” เพราะวันนี้ ก็ได้รับข้อมูลร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง จากรถป้ายเหลืองก็ดี หรือป้ายขาวก็ดี ซึ่งก็ไม่กล้าวิ่งเข้าไปในพื้นที่ ที่มีคิวรถที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการใช้อำนาจข่มขู่ คุกคามคนอื่น ให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอย่าง เช่นข่มขู่ให้ผู้โดยสารลงจากรถ ก็ถือว่าเป็นมาเฟีย ซึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการรถรับจ้างที่มาในวันนี้ ก็ได้พูดคุยกันว่า ถ้าเกิดพฤติกรรมแบบนี้ ทางกลุ่มผู้ประกอบการฯ เอง ก็รับไม่ได้



ว่าที่ ร.ต.สมชาติ กล่าวอีกว่าในวันที่อภิปรายในสภาฯ ก็ได้ฝากเรื่องไปยังกรมการขนส่งทางบกให้มีการปรับค่าใช้จ่ายต้นทุนป้ายเหลือง และป้ายเขียว ที่มีต้นทุนสูงมาก ให้ลดลงมาใกล้เคียงกับป้ายขาว เพราะว่าป้ายเหลืองป้ายเขียว ก็จะเสียเปรียบป้ายขาว ในขณะที่ทำงานขับรถหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ตรงนี้ก็เห็นว่าไม่เป็นธรรม ต้นทุนตรงนี้ต้องมีการปรับแก้ อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมาย ก็ต้องทำยังจริงจัง แท็กซี่รถที่นำมาวิ่งผิดกฎหมาย ไม่จด รย.18 ตรงนี้ ก็ต้องมีมาตรการลงโทษให้มีการเพิ่มโทษให้หนักขึ้น รวมไปถึงแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมข่มขู่ ก็ต้องมีมาตรการที่บังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาดเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้ผู้กระทำความผิด กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก