ภูมิธรรมชี้! ตั้งรัฐบาลก่อน - ถอย ม.272 ระบุ วาระประชาชนกับประเทศเป็นที่ตั้ง

ภูมิธรรมชี้! ตั้งรัฐบาลก่อน ถอยม. 272

ล่าสุด วันนี้ (17 ก.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และหนึ่งในทีมเจรจา ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ‘กรรมกรข่าว คุยนอกจอ’ ระบุ ตนเองต้องออกมาพูด หลัง ‘นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์' หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เผยแพร่คลิปวิดีโอทางโซเชียลมีเดีย ประกาศเปิดแคมเปญแก้ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว. ควบคู่สมรภูมิโหวตนายก

สิ่งแรก ที่ภูมิธรรมระบุ คือ ตนเองไม่ได้อยากออกมาพูดตามรายการต่างๆ เพราะโดยมารยาทเราคุยกัน 2 พรรค ผลสรุปวันนั้นชัดเจน ว่ามีเรื่องเห็นต่างกัน และแม้ว่าจะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 แต่ยังมองว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา เวลาวันนี้ คือการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และก้าวไกลจะได้เสนอชื่อต่อหรือไม่ ต้องเปลี่ยนตัวหรือไม่ คาดว่าเย็นวันนี้จะได้ข้อสรุปชัดเจน

โดยคลิปต้นเหตุ ที่พิธาออกมาแถลง และถูกเผยแพร่อยู่บนโซเชียลขณะนี้ ประกาศเปิดแคมเปญแก้ มาตรา 272 ตัดอำนาจวุฒิสภา(ส.ว.) ควบคู่สมรภูมิโหวตนายก ภูมิธรรมได้นั่งฟังมาก่อน และเผยว่า ม.272 ไม่ได้อยู่ใน MOU ไม่ใช่วาระ 8 พรรคร่วม แต่ที่พิธาออกแถลงการ์ณเหมือน 8 พรรคร่วมรัฐบาลเสนอด้วย ทั้งนี้ระบุว่า วาระเร่งด่วนตอนนี้ คือ การจัดตั้งรัฐบาล และ MOU 10 กว่าข้อที่มีร่วมกัน ม.272 ไม่ใช่วาระทางการเมือง(ม.272)

“เอาวาระประชาชนกับประเทศเป็นที่ตั้ง” ภูมิธรรมกล่าว และเผยว่ารู้เรื่องที่พิธาแถลงพร้อมทีวีและประชาชนทั่วไป ชี้! เพราะก้าวไกลเริ่มเสนอก่อน ไม่รอคุยกันเหมือนที่ตกลง ตนจึงต้องออกมาให้สัมภาษณ์

เมื่อสรยุทธ์ถามว่า เมื่อวันศุกร์ (14 ก.ค. 66) ก่อนหน้าเคยถามพรรคก้าวไกลไหมว่ามีแนวทางอย่างไร ภูมิธรรมตอบว่า “ถามครับ” ทางพรรคก้าวไกลระบุ อยากเสนอชื่อ 1-2 ครั้งขึ้นไป ดูว่าจะเป็นอย่างไร…

ซึ่งภูมิธรรมก็ได้ให้ความเห็นว่า ก็ต้องตอบให้ชัดเจนเรื่องเสียง จากส.ว. ถ้าได้เสียง 350 ขึ้น หรือ 370 ยังคุยได้ แต่ผลที่ออกมาได้แค่ 13 เสียง มันยาก ซึ่งก็คุยกันแล้วแต่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นต่าง โดยภูมิธรรมขอย้ำจุดยืนตนเอง ใน ประเด็นแรก ว่า ไม่เห็นด้วยกับการนำม. 272 มาเป็นวาระ ถึงจะเห็นด้วยในหลักการ และการทำคู่ขนาน

ประเด็นที่สอง เรื่อง ส.ว. เสนอเรื่องเป็นญัตติหรือไม่เป็นญัตติ ถ้าตีตกเป็นญัตติ จะเสนอพิธาไม่ได้ นายภูมิธรรมกล่าวประเด็นนี้ว่า ด้านเพื่อไทยพร้อมโหวตให้ถ้าไม่ถูกตีตก แต่ทางก้าวไกล ต้องตอบให้ชัดเจนให้ได้ว่าเสียงที่จะได้เพิ่มนั้นจะเป็นอย่างไร ได้ประมาณไหน คือใครบ้าง

ซึ่งที่ผ่านมาก้าวไกลไม่ได้ตอบ 8 พรรคร่วม ระบุ ไม่เอาแบบเดิมที่ว่าได้แน่นอนร้อยเสียง แต่ไม่เห็นรายละเอียด และหากคะแนนเสียงออกมาได้เท่าเดิม หรือมากน้อยกว่ากันไม่มาก หรือเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีนัยยะสำคัญ มันต้องจบแล้ว ต้องเปลี่ยนตัว หรือหาทางออกอื่น

ส่วน 2 สมรภูมิ ตามที่พิธาระบุนั้น ภูมิธรรมให้ความเห็นว่า สมรภูมิ 1 โหวตนายก เสียงที่เพิ่มต้องมีนัยยะสำคัญ  มีโอกาสและใกล้ความสำเร็จ ให้โอกาส 3 ครั้ง และยืนยันว่า จะไม่มีการโหวตยืดไปเรื่อยๆยันพฤษภาคมปีหน้า(ตามที่สรยุทธ์ถาม) เพราะคำนึงถึงวาระประชาชนและวาระประเทศสำคัญที่สุด อีกทั้ง นี่อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้พรรคเสียงข้างน้อยจะเข้ามาแย่งชิง อย่างมีเหตุผลว่าเป็นเพราะประเทศรอไม่ได้

สมรภูมิ 2 มาตรา 272 สรยุทธ์ระบุ “เป็นเรื่องที่เสนอในนามพรรคก้าวไกล พรรคเดียว เพราะเขารีบ” ภูมิธรรมสวนทันทีว่า “อ้าว เขาคุยกับเราเราบอกว่าไม่เซ็นต์ด้วย”

คิดว่าไม่ใช่วาระขณะนี้ ได้มีการพูดกับตัวแทนทางพรรคก้าวไกลทั้ง 3 คนแล้ว พวกเขายืนยันอยากเสนอ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ตอบโต้รุนแรง ภูมิธรรม ระบุ “ผมรู้ว่าเขาก็อยากจะเล่น สร้างสัญลักษณ์เพื่อให้เขารู้ว่าเขาได้สู้อย่างเต็มที่”

เผย ธรรมเนียมการแก้รัฐธรรมนูญใช้เวลา อย่าเปลี่ยนประเด็นที่จะจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกล่าวว่าที่ผ่านมา ระหว่างทางก้าวไกลใช้วาระของตนเป็นหลักตลอด “อย่างนี้ไม่แฟร์”

โดยประเด็น โหวตยกเลิกม. 272 นั้น อยู่นอกเหนือ MOU และโอกาสยากมาก ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า “ไม่ผ่านแน่นอน” ก็แสดงว่าคุณต้องการการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์เท่านั้นเอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว

โดยเจตนาการเสนอของพรรคก้าวไกล ภูมิธรรมมองว่า คุณไม่ได้สนใจเรื่องหลัก คือการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี - จัดตั้งรัฐบาล โดยเงื่อนไขพุธที่จะถึงนี้ ต้องรอดู 2 เงื่อนไข คือ ญัตติส.ว. และ 376 เสียงต้องตอบให้ได้

ซึ่งถ้าได้ 360 เสียงขึ้นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ว่าโอเคเลย ส่วนม. 272 ถ้าทางก้าวไกลจะทำ ก็ทำได้ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกะการโหวต ถามซ้ำ…“จะทำไปทำไม?”

และเมื่อถูกถามถึงประเด็น ม.112 ที่ก้าวไกลเสนอ ซึ่งถูกหลายคนจับตาว่าเป็นอุปสรรควัดใจส.ว. นายภูมิธรรมมองว่า ทางก้าวไกลติดขัดเรื่อง ม.112 ซึ่งไม่ได้อยู่ในวาระ MOU ตนเสนอแต่แรกแล้วว่าไม่ให้เอามาเพราะจะไม่มีทางได้เสียงจากส.ว. หวังคะแนนส.ว.ไม่ได้ เพราะเขาไม่เอา จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายไม่ได้

ภูมิธรรมระบุเพิ่มเติมอีกว่า ตนต้องออกมาพูด เพราะยังไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งที่เป็นประเด็นใหม่ขึ้นมา “เราต้องถอนฟืนออกจากไฟ” เพราะมันจะเปิดโอกาสให้อำนาจพิเศษเข้ามาแทรกแซง แล้วเราจะไม่เหลืออะไรเลย

“การเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้” นายภูมิธรรมให้ความเห็นว่า เคยมีปรากฎการณ์งู และการเสนอกล้วยมาแล้ว

โดยความเป็นจริงวันนี้ ทั้งเพื่อไทย และ ก้าวไกล นายภูมิธรรมระบุว่ามีการต้อนไปคุยมาแล้ว มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างที่ตนต้องพิจารณาและปล่อยผ่านไปเฉยๆไม่ได้ พร้อมย้ำว่า เวลานี้สิ่งที่ก้าวไกลทำ ไม่ได้ป้องกัน แก้ไข มีแต่จะทำให้เห็นว่า ส.ว. เป็นอุปสรรค

ภูมิธรรม ลั่น! ถึงก้าวไกล “หันกลับมาเถอะ ทิ้ง 272 ไป”