‘บิ๊กป้อม’ สยบข่าวถอยการเมือง ลั่นไม่ลาออก จะอยู่ดูแล พปชร.ไปตลอดชีวิต

'บิ๊กป้อม' สยบข่าวถอยการเมือง ลั่นไม่ลาออกจะอยู่ดูแล พปชร.ไปตลอดชีวิต ปลุกใจลูกพรรค ร่วมสร้างพรรคให้เข้มแข็ง-เป็นที่ศรัทธาของประชาชน มีเอกภาพไม่แบ่งกลุ่มก๊วน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบนโยบาย เนื่องในการประชุมปฐมนิเทศ ส.ส.พลังประชารัฐโดยเริ่มที่ความยินดีกับส.ส.ใหม่ทุกคน ทั้ง40 คน จากการเลือกตั้งครั้งนี้ที่มีประชาชนเข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกว่า 75% ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ และแม้พรรคพลังประชารัฐจะได้ส.ส.มาเป็นอันดับ 4 แต่ก็ถือว่าได้มาทุกภูมิภาคของประเทศยกเว้นกรุงเทพมหานคร จึงถือได้ว่าผู้สมัครเป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะส.สที่ผ่านการเลือกตั้งที่เรียกได้ว่ารุนแรงมากที่สุดทุกครั้ง เพราะพรรคการเมืองทุ่มเท ทุกรูปแบบเพื่อให้ได้รับชัยชนะ พร้อมเชื่อว่าทุกพรรคจะนำผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไปพิจารณาปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงและกำหนดแนวทาง สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป



พลเอกประวิตร กล่าวว่าที่ผ่านมาได้ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชนไปแล้วและขอขอบคุณบุคลากรของพรรคทุกฝ่ายตั้งแต่กรรมการบริหารพรรคกรรมการยุทธศาสตร์คณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการทุกชุดที่ทำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐ ผู้สมัครของพรรคทุกเขต ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ถึงวันนี้พรรคพลังประชารัฐของเราจะยังต้องเดินหน้าตามอุดมการณ์และเจตจำนงของพรรคที่ต้องการอาสาเข้ามาดูแลแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นพรรคการเมืองที่มั่นคงและยั่งยืนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งขอยืนยันว่าจะดูแลพรรคพลังประชารัฐนี้ไปตลอดชีวิตที่มีชีวิตอยู่ ไม่ต้องไปฟังว่าจะลาออกหรือไปที่ไหน ยังไงก็จะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐตลอดไป



พลเอกประวิตรกล่าวว่าในวันพรุ่งนี้จะได้เข้าร่วมพิธีเปิดประชุมสภาและวันที่ 4 ก.ค.จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เพื่อเลือกประธานสภาฯ ถัดไปจะเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนหนทางจะตั้งรัฐบาลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตามพรรคพลังประชารัฐยังคงเป็นพรรคที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อรับใช้ประชาชนชาวไทยต่อไป ไม่หยุดยั้ง



พลเอกประวิตร กล่าวว่า อยากให้การปฐมนิเทศในวันนี้อยากให้เป็นจุดเริ่มต้น ให้สมาชิกที่เป็นบุคลากรสำคัญของพรรคไม่ว่าใครจะมีสถานะหรือตำแหน่งใดในพรรคหรือไม่ก็ตาม จะต้องร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อสร้างพรรคพลังประชารัฐให้เข้มแข็งเป็นที่ยอมรับศรัทธาของพี่น้องประชาชนต่อไป พรรคจะต้องเป็นหนึ่งเดียวเป็นตัวแทนที่มีบทบาททำหน้าที่ทั้งในและนอกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม เพื่อให้ประชาชนภูมิใจ ได้รับการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว



พลเอกประวิตรระบุว่าส.ส.ทุกคนจะต้องมีจริยธรรมทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดส.ส.ของพลังประชารัฐต้องเป็นเอกภาพไม่มีแบ่งกลุ่มแบ่งก๊วน เพื่อต้องการรับผลประโยชน์ใดๆก็ตาม และขอฝากให้ทุกคนต้องอยู่ในการดูแลของพรรค ได้รับการสนับสนุนจากพรรคทุกอย่างไม่ว่าใครจะเป็นอะไรก็แล้วแต่จะต้องผ่านกรรมการบริหารของพรรคคณะกรรมการนโยบายของภาคและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อที่จะให้ทุกคนได้มีตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎร



พลเอกประวิตรย้ำว่าสิ่งที่พูดไม่ได้ต้องการให้เกิดประโยชน์เฉพาะคนใดคนหนึ่งหรือพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นแต่จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวม ที่สำคัญคือการปฏิบัติหน้าที่ของพรรคจะต้องได้ประโยชน์ประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยยึด ประโยชน์ประเทศชาติไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรคเป็นที่ตั้ง หลักการทำหน้าที่นั้น ต้องรักษาผลประโยชน์ของพรรคไม่ใช่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง หากยึดหลักแบบนี้เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคที่เข้มแข็งมั่นคงและเป็นที่ยอมรับศรัทธาของพี่น้องประชาชนตลอดไป พลเอกประวิตรกล่าวว่าการปฐมนิเทศในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการรวมพลังสร้างความเค็มเข้มแข็งแข็งแกร่งให้กับพรรคอยู่อย่างมั่นคงแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้สสทำหน้าที่ในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐ ในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 นี้อีกด้วย



พลเอกประวิตรยังให้กำลังใจและอวยพรให้ทุกคนทำหน้าที่ส.ส.อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จดังที่หวังไว้ทุกประการ ฝากให้ทุกคนทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เพื่อพรรคเพื่อประโยชน์ของตัวเอง