เลือกตั้งและการเมือง

‘ณัฐวุฒิ’ บอก ‘บิ๊กตู่’ ประเทศไทยไม่ใช่ค่ายทหาร ประชาชนไม่ใช่พลทหาร

โดย attayuth_b

2 มี.ค. 2566

54 views

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีต่อการเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า ประเทศเป็นของประชาชนทุกคน นายเศรษฐา ก็เป็นที่ยอมรับในแวดวงเศรษฐกิจและธุรกิจ ต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ที่อยู่ในค่ายทหารมาตลอด แต่กลับเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ควรแสดงวุฒิภาวะที่ดีมากกว่านี้ ควรสำนึกว่าเติบโตมาในชีวิตราชการอย่างไร

ส่วนตัวมองว่าท่านโตมาในกองทัพและกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ส่งต่อมาเป็นทอดๆ และตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ไม่คิดว่าคนไทยจะเห็นพล.อ.ประยุทธ์เป็นที่พึ่งอีกแล้ว และไม่เห็นอนาคตภายใต้การนำของท่านได้ เพราะประเทศไทยไม่ใช่ค่ายทหาร ประชาชนไม่ใช่พลทหาร อำนาจที่มี แนวทางที่เป็น ไม่ได้สอดรับกับความต้องการของประชาชนที่รออยู่ พร้อมฝากกำลังใจให้พล.อ.ประยุทธ์ และฝากบรรดานักการเมืองรอบตัวท่านอย่าเร่งไฟให้แรงมาก เพราะจะไหม้ก่อน ขอให้ใช้ไฟอ่อน เพราะเมื่อถึงวันเลือกตั้งก็ตุ๋นให้เปื่อยพอดี

ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาเตือนนายเศรษฐา ว่าจะเจอทุกขลาภ หลังเปิดหน้าสู่การเมือง นายณัฐวุฒิ มองเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่มั่นใจไม่กระทบกับการตัดสินใจเดินเข้าการเมือง ของนายเศรษฐา และไม่กระทบกับการทำงานของพรรคในสนามเลือกตั้ง เพราะใครที่เดินเข้าสนามเลือกตั้งก็ถือเป็นเรื่องยาก ย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่เชื่อนายเศรษฐา รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี เมื่อตัดสินใจร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยแล้วไม่ว่าจะเจอกับอะไรในเส้นทางการเมือง คนของพรรคเพื่อไทยก็จะร่วมเผชิญด้วย เพราะเราทำงานเป็นทีม

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ที่ออกมาพูดถึงแนวทางการหนุนเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมาก ว่า ส่วนตัวไม่ยึดติดกับท่าทีการแสดงออกจากนายวันชัย และหาก ส.ว. คิดแบบเดียวกันก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้ายังดึงดันฝืนมติประชาชนสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ก็ถือเป็นชะตากรรมของประเทศ ซึ่งไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น และตลอดเวลา 8 ปีมานี้ ไม่ควรมีองค์กรใด บุคคลใด หรืออำนาจใด ขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชน ดังนั้น รับทราบสิ่งที่นายวันชัยพูด แต่ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะมีคำทำนายอะไรออกมาหรือหรือไม่

ส่วนของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่าจะส่งรายชื่อครบ 3 รายชื่อ ทุกคนล้วนเป็นตัวจริง ไม่มีตัวหลอก ประชาชนพิจารณาหาคนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ซึ่งสุดท้ายแล้วจะเป็นใครก็จะต้องรอมติกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง

นายณัฐวุฒิ ยังพูดถึงกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี ยื่น กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองในการช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ว่า ตนเองไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพียงแค่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกเท่านั้น โดยกฎหมายกำหนดเพียงเรื่องคุณสมบัติการลงสมัคร ส.ส. คือ ห้ามมิให้ผู้ต้องคำพิพากษาไม่เกิน 10 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้ง และคดีที่โดนจำคุกนั้น มีเพียงคดีที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และ ฝ่ายกฎหมายของพรรคตรวจสอบคุณสมบัติของตัวเองแล้ว หลังจากนี้จะเดินหน้าพบปะประชาชนไปกับพรรคเพื่อไทยมุ่งสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ต่อไป



คุณอาจสนใจ

Related News