เลือกตั้งและการเมือง

นายกรัฐมนตรี ลุกแจงยิบ หลังถูกกล่าวหาเอื้อทุนจีนสีเทา ยันรัฐบาลนี้ ไม่มีซื้อบ้านแถมสัญชาติ

โดย paweena_c

16 ก.พ. 2566

44 views

นายกรัฐมนตรี ลุกแจงยิบ หลังถูกกล่าวหาเอื้อทุนจีนสีเทายัน รัฐบาลนี้ ไม่มีซื้อบ้านแถมสัญชาติ ลั่นรัฐมนตรีของตนตั้งแต่ปี57 ไม่มีใครติดคุกสักคน ซัดเมียตู้ห่าวเกี่ยวอดีตรัฐมนตรีบางพรรครับไทยเป็นแกนกลางลำเลียงยาเสพติดอาเซียนจริง แต่ต้องแก้ไข ไม่ใช่ฆ่าคนทิ้ง 2000-3000 คน ยันตั้งกอ.รมน.ต่อต้านภัยคุกคามไม่ใช่รักษาอำนาจตน ขออย่าเปิดคลิปมั่ว ย้ำนายกฯทุกยุคคือผอ.รมน.ทำไมรบ.ก่อนหน้าไม่มีปัญหา


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจง ถึงคดีตู้ห่าวที่มีการพูดถึงในหลายท่าน กล่าวว่า ผมขอย้อนกลับไปว่าพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นมานานพอสมควร ซึ่งเกิดมาก่อนปี 2557 เข้ามาและอนุมัติอนุญาตตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งกระบวนการการขอสัญชาติก็มาเรื่อย ๆ จนมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน เมื่อเสนอมาตรวจสอบแล้วถูกต้อง ก็อนุมัติตามขั้นตอนตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นขอให้ คิดย้อนกลับให้ผมสักนิดก็แล้วกัน ว่าเกิดตั้งแต่ปี 2557


พฤติกรรมเหล่านี้เมื่อเราทราบ ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเลยหรืออย่างไร วันนี้ก็มีการฟ้องร้องจากภาคประชาชน สุดๆก็รับมาทุกเรื่อง และมอบหมายให้สืบสวนสอบสวนความจริงแล้วไม่อยากจะโทษใคร น่าจะถูกปล่อยเปล่าไว้นานแล้ว ตนได้ย้อนกลับไปสอบสวนเงินเหล่านี้ ทราบว่าได้ใช้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เรียกว่ายกหลายหมู่บ้าน ผมก็ไม่รู้ว่าบริษัทของใครเหมือนกัน และขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่มีแน่นอน ในการขายบ้านและแถมสัญชาติให้ ไม่มีหรอกครับ หากไปเช็คดูภรรยาของตู้ห่าว ได้มีความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีของบางพรรค


ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่าตั้งแต่ต้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มาพบตนตั้งแต่ต้นและตนก็รับฟัง และส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในทันที ความยุติธรรมก็ต้องมี ตนทำถูกต้องแต่อาจจะไม่ถูกใจ ไม่ทันใจทุกคน เพราะการดำเนินการบางอย่างอยู่ในขั้นตอน บางอย่างเปิดเผยได้บางอย่างเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน


ส่วนการอภิปรายที่มีการพาดพิง นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สืบสวนสอบสวน เข้าไปดำเนินการตามอำนาจ ป.วิอาญา ส่วนการเพิกถอนหมายจับก็เป็นดุลยพินิจของฝ่ายตุลาการ พี่มีความเห็นให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกก่อน เรื่องนี้ตนไม่ขอไปก้าวก่าย ไม่ได้ไปช่วยเหลือใคร นี่คือกระบวนการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมเป็นแบบนี้ พี่ตุ่นต้องพูดแบบนี้เพราะไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายบริหาร เป็นหน้าที่ของฝ่ายยุติธรรม เริ่มต้นตั้งแต่ตำรวจอัยการและศาล และเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร ผมสั่งท่านไม่ได้อยู่แล้ว หากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีก ก็ต้องออกหมายเรียก ส่วนจะเรียกตอนไหนอย่างไรก็เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งคดีก็ยังอยู่ในอายุความ เพราะฉะนั้นไม่มีใครไปเอื้อผลประโยชน์หรือช่วยเหลือได้


ส่วนกรณีที่ 2 กลุ่มทุนจีนสีเทาผับจินหลิง รัฐบาลก็มีการตรวจค้นขยายผล ได้ผู้ต้องหามาหลายสิบราย บางรายหลบหนีเราก็ออกหมายจับ อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ส่วนที่มีการระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพัน ผู้บังคับบัญชาได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว รายได้พบว่ามีความผิดทางอาญาต้องถูกดำเนินคดีด้วย


ส่วนที่บอกว่ามีการแต่งตั้งโยกย้ายคนขยันคนทำงาน นายกรัฐมนตรียืนยันว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นอำนาจของผบ.ตร. พิจารณาไปตามกฎเกณฑ์หลักเกณฑ์ของเขา


ส่วนที่นายหยู ซินฉีตั้งสมาคมปลอมเพื่อช่วยทำวีซา นำคนจีนสีเทาเข้าประเทศใยช่วงปี 63-64 กว่า 7,000 คนซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตม.ให้การช่วยเหลือ วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการสอบสวน ซึ่งเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามทำอย่างตรงไปตรงมา หากพบความผิดต้องดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา โดยไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงคนไทยหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งตนยืนยันเสมอมาว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน


ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงการทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ผมไม่อยากย้อนกลับ หลายท่านก็กล้าที่จะพูดออกมา อดีตรัฐมนตรีหลายคนก็มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน ติดคุกกันหลายคน ไปต่างประเทศก็มี และยืนยันว่ารัฐบาล ตั้งแต่ปี 2557 ของผม ยังไม่มีรัฐมนตรีคนไหนติดคุกสักราย นี่คือข้อเท็จ


ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ชี้แจงทีมงานได้ใช้กราฟฟิก เป็นอีโมชั่นนำมือมาปิดปากและปิดตา เพื่อเปรียบเทียบรัฐบาลต่างๆ โดยขึ้นหัวว่ารัฐมนตรีติดคุก ในสมัยก่อนหน้านี้ ที่ติดคุก 5 คน 3 คน แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ติดคุกศูนย์คน


ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ได้ชี้แจงถึงกอ.รมน. ตนก็เห็นว่าไม่เห็นมีปัญหากับใคร คนดีดีเขาก็ไม่มีปัญหา มีแต่ท่านที่มีปัญหา เพราะท่านมีปัญหากับกฎหมาย ทุกฉบับอยู่แล้วเท่าที่ตนสังเกตมา แต่อย่าลืมว่าคนที่เหลือเขาอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน มีคุณเดือดร้อนอยู่คนเดียว ซึ่งกอ.รมนเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาอยู่ภายใต้กฎหมาย


ซึ่งนายกรัฐมนตรีถึงกับกระแทกเสียงดัง ว่า มีนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.รมน. ก่อนหน้านั้นนายกฯทุกคนเป็นผอ.รมน. ก่อนผมมาอยู่ ก่อนผมมาเป็นวันนี้ผมก็ปฏิบัติงานภายใต้นายกฯของท่านคนที่แล้ว ท่านก็สั่งงานผม ไม่เห็นว่าท่านจะมีอะไรหาอะไรกับผมเรื่องกอ.รมน. เป็นกลไกการประสานงาน ในการต่อต้านภัยคุกคามทุกรูปแบบ วันหน้าถ้าไม่มีปัญหาเช่นเรื่อง ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ก็สามารถยกเลิกได้ ตนอยากชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ใช่ต้องการรักษาอำนาจให้ตน


ส่วนเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าที่ตนพูด เพราะทุกวันนี้มีเรื่องของการอภัยโทษอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องนิรโทษเป็นเรื่องของสภาฯ ท่านถามผมผมก็ตอบไปว่าผมไม่เห็นด้วยเท่านั้นเอง เป็นเรื่องสภาของท่าน แต่รู้สึกว่าท่านนั้นมีปัญหากับกฎหมายทุกฉบับเท่าที่ตนสังเกตมา ท่านจะยกเลิกนู่นยกเลิกนี่ ปล่อยคนจากนู่นจากนี่ แล้วอีกหน่อยจะอยู่กันอย่างไรไม่รู้เหมือนกัน


จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ปลุกปั่นให้เด็กเล็ก และพูดด้วยเสียงเข้มว่าให้เด็กอายุ 14 นั้นออกมาได้อย่างไร เขาควรที่จะไปเรียนหนังสือ เขาควรจะรักพ่อรักแม่รักครูอาจารย์ เขาออกมาด้วยอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วก็มาแอบอยู่ข้างหลัง ตัวเองก็ไม่ได้โดนคดีอะไรทั้งสิ้น หากโดนมีสิทธิ์คุ้มครองตัวเองก็ว่าไป ท่านพูดมา ผมก็พูดไป อย่าโกรธผม


โดยนายกรัฐมนตรี ยังระบุถึง เรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องพูดอย่างระมัดระวัง เพราะเกี่ยวพันกับกลุ่มประเทศโออีซี (OEC) ประเทศมุสลิมหลายประเทศ มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมแก้ปัญหากับเรา ซึ่งหากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วก็สามารถถอนกำลังออกได้ ไม่ใช่ส่งไปเพื่อไปควบคุม ท่านมองทุกอย่างที่ทำกดหัวคนหมด แล้วจะทำงานกันอย่างไร


ซึ่งวันนี้การเดินหน้าก็ไปได้เยอะแล้ว อย่าลืมว่ามีความร่วมมือกับนอกประเทศด้วย นี่คือประเด็นที่ผมไม่อยากให้พูดมากนัก ถ้าไม่รู้แล้วอย่าพูด อย่าพูดแล้วอย่าเอาคลิปแบบเมื่อกี้ออกมาอีก ใครจะไปทำคลิปแบบนี้ หลายท่านที่อยู่ใต้ก็รู้อยู่แล้วว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ชาติพันธุ์ และประวัติศาสตร์ ท่านพูดท่านรู้เรื่องพวกนี้หรือไม่


ส่วนเรื่องยาเสพติดที่มีการกล่าวว่าตนนั้นไม่รับผิดชอบ ขอให้ลองไปดูว่า เขาทำงานอะไรกันบ้าง ถ้าท่านอ้างว่าทุกคนร่วมมือมีคนได้ประโยชน์ ก็ขอให้แจ้งมา ก็ต้องสอบสวนดำเนินคดี ใครเกี่ยวข้องก็ต้องลงโทษ หากต่อๆก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เราพยายามแก้คนชั่วก็ชั่วมากขึ้น มีวิธีการใหม่ๆมาสู้อีก เราก็ต้องช่วยกันแก้ไขต่อไป ที่บอกว่ามียาเสพติดเข้ามาในประเทศมาก ที่เป็นแกนกลางส่งออกในประเทศอาเซียน ข้อนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งเราก็ต้องแก้ไขไป ทุกเรื่องต้องแก้ไข ต้องปรับปรุง ไม่ใช่ปรับยาเสพติดคือการฆ่าคนทิ้งไป 2,000-3,000 คน เฉยๆอย่างนี้ มันถูกไหมล่ะครับ ทำได้ไหม


มีปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ซับซ้อน ส่งผลต่อความมั่นคง ท่านรังเกียจไม่ชอบ ผมก็ไม่ชอบยาเสพติด ท่านต้องมาช่วยผม ทำความเข้าใจสังคม จะไปลองบอกเด็กอย่าไปลองอย่าไปเสพ ท่านเคยช่วยผมทำอย่างนี้หรือไม่ มีแต่ตำหนิข้าราชการเจ้าหน้าที่ ต้องใช้กฎหมายและเคารพกระบวนการยุติธรรม ประเทศใดที่ไร้ซึ่งกฎหมาย มันไม่ใช่ประเทศ วันหน้ามันก็แตกไปหมด ผมอยากเตือนพวกเราทุกคนและขอบคุณ ในการทำให้บ้านเมืองมีความรักความสามัคคี ไม่แตกแยก เพราะนี่คือประเทศไทย ถ้าเราแบ่งแยกใส่กันไปแบบนี้วันหน้าไปไหนไม่ได้ ที่เราพยายามทำแบบนี้ เพื่อให้ไทยก้าวไปสู่อนาคตให้ดีที่สุด


ผมเดินทางไปต่างประเทศ ไม่เห็นเขารังเกียจผมสักคน ได้รับการยอมรับพอสมควร ผู้นำทุกประเทศก็คุยกับผม การประชุมต่างประเทศเขาก็ชวนผมไป ยังชื่นชมด้วยซ้ำไปว่าทำได้อย่างไร ในการแก้ไขปัญหาโควิด 19 นี่คือสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในไทย แต่ท่านมองไม่เห็น เห็นแต่สิ่งไม่ดี บางอย่างไม่เข้าใจบางอย่างไม่ร่วมมือ ท่านไม่เคารพกฎหมาย ตนอยากจะทราบว่าหากท่านมีอำนาจขึ้นมา แล้วไม่มีกฎหมาย แยกคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายไปหมด เด็กของเราหลายคนถูกบิดเบือนไป ก็กรุณารับผิดชอบด้วยก็แล้วกันในวันหน้า



คุณอาจสนใจ

Related News