เลือกตั้งและการเมือง

‘เด็กก้าวไกล’ แนะ รัฐออกมาตรการเฉพาะหน้า เยียวยาเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดย attayuth_b

31 ม.ค. 2566

24 views

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ยานนาวา-บางคอแหลม ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.พัฒนาการเมือง แนะรัฐตั้งกองทุนออกมาตรการเยียวยาผู้เสียหายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน เพื่อบรรเทาความเสียหายของประชาชนและชดเชยที่ยังไม่สามารถจัดการขบวนการมิจฉาชีพได้

นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพ เขตยานนาวา-บางคอแหลม ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ ได้รับยื่นหนังสือจากตัวแทนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ โดยเสนอให้รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบ ระหว่างที่มาตรการป้องกันและปราบปรามยังดำเนินการอยู่

นายจรยุทธ ระบุว่าปัญหากลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงประชาชนผ่านคอลเซ็นเตอร์และรูปแบบทางเทคโนโลยีอื่นๆ เป็นอะไรที่แพร่ระบาดมาเป็นเวลานานแล้วและนับวันมีแต่จะหนักข้อขึ้น มีการนำเทคนิคใหม่ๆ มาใช้ตลอดเวลาเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ และเข้าใจได้ว่าการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะมีลักษณะข้ามชาติ แต่ตราบที่มิจฉาชีพเหล่านี้ยังคงปฏิบัติการอยู่ ก็จะยังคงมีบุคคลที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่ออีกเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ตนเห็นว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดโดยตรงของประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ และในเมื่อรัฐยังคงไม่สามารถหาทางปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมในลักษณะนี้ได้ บวกกับผู้ที่จะตกเป็นเหยื่อมีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ตนจึงเห็นว่าน่าจะถึงเวลาสมควรแล้ว ที่จะต้องมีการคิดถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจจะเป็นการจัดตั้งในลักษณะของกองทุนหรือการใช้งบประมาณในรูปแบบอื่น

นายจรยุทธ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ต้องเสนอเช่นนี้ เพราะรัฐจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ที่ยังคงไม่สามารถเข้าปราบปรามกลุ่มอาชญากรเหล่านี้ได้ แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบที่รัฐจะต้องดำเนินการ แต่เมื่อรัฐทำไม่สำเร็จ ความเสียหายเกิดขึ้นมาแล้ว รัฐก็ควรจะต้องมีมาตรการช่วยเหลือเพื่อชดเชยกับความล้มเหลวในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

“ผมอยากย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของประชาชน ไม่มีใครที่จะสามารถรู้ทันทุกเรื่องทุกกลโกงของมิจฉาชีพเหล่านี้ และในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว และส่งผลกระทบเดือดร้อนต่อคนจำนวนมาก สำหรับบางคนมันคือเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต เงินที่ต้องเอาไปใช้ในธุระจำเป็นอื่นๆ ดังนั้น อย่างน้อยที่สุดการเยียวยาแม้จะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นตอ แต่ก็จะสามารถทุเลาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนได้ เป็นคนละส่วนกับการป้องกันและปราบปราม ที่รัฐจะต้องหาทางจัดการให้ได้ในอนาคต” นายจรยุทธ์ กล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News