‘ประยุทธ์’ ประกาศชัด ไปเป็นแคนดิเดต ‘นายกฯ’ พรรครวมไทยสร้างชาติ

ชัดเจนที่สุด!!! “พล.อ.ประยุทธ์” ประกาศชัด ไปเป็นแคนดิเดต “นายกรัฐมนตรี” พรรครวมไทยสร้างชาติ เผยได้บอกลา “พล.อ.ประวิตร” แล้ว  ไม่มีแตกกันเพราะสัมพันธ์พี่น้องทหารลึกซึ้ง ตัดกันไม่ขาด ระบุวันนี้ถือเป็นการประกาศชัดในการสู้ศึกเลือกตั้ง เพราะอยากสานต่องานที่เคยทำมา ส่วนครอบครัวเข้าใจดีพร้อมสนับสนุน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศชัดเจนเตรียมเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และเตรียมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค ซึ่งเท่าที่ทราบตอนนี้มีเพียงคนเดียว ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเองได้รับการเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐ แต่วันนี้ พรรคพลังประชารัฐได้เสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นแคนดิเดตนายกฯ วันนี้จึงประกาศให้ชัดเจนว่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

แต่ยืนยันว่า การแยกตัวมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้มีปัญหากับพลเอกประวิตร เพราะได้พูดคุยและบอกกล่าว ทำความเข้าใจกันแล้ว ซึ่งเข้าใจกันดี ไม่มีปัญหา เพราะความสัมพันธ์แบบทหารกับทหารมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ยากที่จะแตกแยกได้ เพราะตั้งแต่เรียนจบมา ก็มีพลเอกประวิตรเป็นผู้บังคับบัญชาคนแรก และอยู่ในความดูแลของพลเอกประวิตร มาโดยตลอด

พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ก็จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่รอให้ทางพรรคกำหนดวันที่ชัดเจนก่อน ยืนยันว่า ได้ตัดสินใจมานานแล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะให้การสนับสนุน เพราะต้องการสานต่องานที่ตนเองวางรากฐานไว้ในงานที่ยังทำไม่สำเร็จ ที่ผ่านมาตนเองได้ทำเพื่อประชาชนในทุกพื้นที่ แม้บางพื้นที่จะไม่มี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐและพรรครัฐบาลก็ตาม แต่ก็ยังไปทุกพื้นที่และอนุมัติงบประมาณในการแก้ปัญหาให้ อย่างล่าสุด ไปที่จังหวัดเชียงราย ก็ไม่มี ส.ส.รัฐบาล แต่ตนก็ยังไป เพราะมองประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามย้ำว่า นี่ถือเป็นการประกาศชัดว่าพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งใช่หรือไม่ พลเอประยุทธ์ ตอบกลับผู้สื่อข่าวว่า นี่ยังไม่ชัดอีกหรือส่วนครอบครัวสนับสนุนเต็มที่หรือไม่ ก็พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เข้าใจกันว่าทำเพื่ออะไร

ส่วนจะจับมือกับพลเอกประวิตรหลังจากนี้หรือไม่ ก็อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง ว่าใครได้เป็นฝ่ายค้านใครได้เป็นรัฐบาล ถึงเวลานั้นก็ค่อยมาดูอีกครั้ง

สำหรับมาทำพรรคเอง ถือเป็นความท้าทายหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคก็ทำของเขาอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องมาคุยกันถึงสิ่งที่รัฐบาลได้ทำไว้แล้วต้องมาสานต่ออย่างมั่นคงและยังยืน

ทั้งนี้ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติของกระทรวงวัฒนธรรม ตามปกติจะต้องเดินผ่านสื่อมวลชนไปเปิดงานทันที แต่ครั้งนี้มีความตั้งใจเดินมาหาสื่อมวลชนแล้วเพื่อประกาศความชัดเจนทางการเมืองโดยที่ผู้สื่อข่าวยังไม่ทันไก้ถาม เนื่องจากที่ผ่านมามีความสับสนเรื่องความชัดเจนทางการเมืองของตนเองและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา จึงตั้งใจจะมาประกาศความชัดเจน ว่าจะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนานเกือบ 30 นาที ท่ามกลางแดดร้อน หน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล