เลือกตั้งและการเมือง

‘สุทิน’ ซัด ‘บิ๊กตู่-อนุทิน’ เปิดกัญชาเสรีมีผลประโยชน์ทับซ้อน หวั่น UN ขึ้นบัญชีละเมิดกติกาโลก

โดย nicharee_m

19 ก.ค. 2565

95 views

“สุทิน” มองเปิดกัญชาเสรีมีประโยชน์ทับซ้อนกับพรรคภูมิใจไทยและนายกฯ ห่วงUN ขึ้นบัญชีไทยเป็นประเทศที่ละเมิดของกฎหมายสากล

วันที่ 19 ก.ค.65 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่าทั้ง 2 คน จัดทำนโยบายกัญชาโดยไม่สุจริตใจ ทำให้เกิดการละเมิดกติกาโลก เนื่องจากไทยได้ไปลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 1961 ขององค์การสหประชาชาติ หรือ UN แถมยังละเมิดรัฐธรรมนูญไทย ละเมิดมติรัฐสภาไทย แล้วยังละเลยไม่ควบคุมกัญชา ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนและประเทศ

โดยก่อนเข้าสู่เนื้อหา นายสุทินขอพูดความในใจ ว่า เรื่องนี้มีวิวาทะกันในสังคมมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งทำให้ทั้ง2ฝ่ายมีการเดิมพันธ์ด้วยธุรกิจ คำพูดของตนอาจจะกระทบกับประชาชนในบางส่วนและกระทบในธุรกิจกัญชาไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ แต่ก็อยากพูดเพื่อให้ความจริงได้ปรากฎตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่ประชาชนจะถลำลึกและเจ๊งในวันข้างหน้า ขณะเดียวกันก็ไม่สบายใจเนื่องจากตนเองก็เคารพนับถือกับนายอนุทิน ไม่อยากให้มีเรื่องโกรธกัน แต่การพูดของตนเป็นการเปิดโอกาสให้นายอนุทิน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ยืนยันว่าเรื่องที่จะพูดวันนี้เป็นเรื่องใหม่ทั้งหมดจึงอยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ฟังจนจบ

และเมื่อเข้าสู่เนื้อหาการอภิปราย นายสุทิน ได้เปิดคลิปเนื้อหาการปราศรัยช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี62 โดยเนื้อหาใจความส่วนหนึ่งในคลิปนายอนุทิน ระบุว่า "กัญชาเป็นยาพารวย เป็นยารักษาโรค และนำมาพี้สูบกันเองได้ " นายสุทินกล่าวต่อว่า การ ประกาศนโยบายดังกล่าวเป็นการติดกระดุมผิดเพราะการพูดขณะนั้นผิดกฎหมายโลกและกฎหมายไทยทุกข้อ และที่สะเทือนใจและผิดมากคือ "สามารถนำไปพี้และสูบได้ทุกคน"

ต่อมานโยบายดังกล่าวถูกนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองในการร่วมรัฐบาลซึ่งนายกฯต้องจำยอม และกลายเป็นนโยบายของรัฐบาลทันที นโยบายกัญชาที่ออกมาเป็นการละเมิดเกินเลยว่าที่สภาอนุมัติ แม้จะบอกว่าหลายประเทศทำได้ แต่มีหลายประเทศที่ละเมิด และที่ละเมิดอย่างรุนแรง คือประเทศแคนนาดา และประเทศอุรุกวัย ที่ตอนนี้กำลังถูกทั้งโลกลงโทษ และขณะนี้ประเทศอุรุกวัยก็พยายามยกเลิกนโยบายกัญชาเสรี เพราะไม่คุ้มกับที่สูญเสียไป ซึ่งต่างประเทศส่วนใหญ่อนุญาติแค่ทางการแพทย์เท่านั้น

ซึ่งภายหลังปลดล็อคมีการวางขายกัญชาแบบเสรีอย่างชัดเจน ทำให้หลายหน่วยงานออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย และมีเสียงคัดค้านกับการเปิดกัญชาเสรี แม้มีกฎหมายควบคุมกันชงกัญชาออกมา แต่สรรพคุณยาเสพติดก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปด้วย

แล้ววันนี้ถ้ามาเทียบกับสิ่งที่จะได้ เรื่องเศรษฐกิจก็ไม่คุ้ม เรื่องสังคมก็จะเละ การที่ทำแบบนี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะประโยชน์ทางการเมืองที่จำเป็นต้องทำเมื่อประกาศออกมาแล้วก็ต้องทำเพื่อให้ได้คะแนนเสียงทางการเมือง นายกรัฐมนตรีก็ได้ประโยชน์ในการอยู่ในอำนาจและมีพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าบริษัท STPI เครือชิโนไทยเดินหน้าธุรกิจกัญชงเต็มตัว เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศรับซื้อไม่อั้น จึงเกิดกระบวนการปลดล็อคกัญชา เปรียบเสมือนการนำประเทศทั้งประเทศไปค้าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งถ้าหากเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่อนุญาตให้ทำเรื่องนี้คงไม่สำเร็จ



นายสุทินยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านกัญชาแต่ต้องอยู่ในกรอบการแพทย์ การวิจัย ไม่มีเรื่องสันทนาการ และไม่ขัดต่อมติโลก แต่ดูจากเจตนาของนโยบายกัญชาวันนี้ถือว่าสายไปแล้ว

อย่างไรก็ตามขณะนี้ถือว่าความผิดสำเร็จแล้วจึงกังวลว่ายูเอ็นจะขึ้นบัญชีให้ไทยเป็นประเทศที่ละเมิดของกฎคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ ซึ่งจะทำให้ไทยเสียสิทธิ์ทางยาและอาจถึงขั้นงดให้ความร่วมมือกับไทยในการปราบปรามยาเสพติด หากไทยอย่างดื้ออาจจะถูกปรับออกจากภาคี ซึ่งจะทำให้ไทยไม่เหลือทั้งเกียรติภูมิและความน่าเชื่อถือของประเทศ

ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรีและนายอนุทินอยู่ต่อยิ่งจะทำให้กัญชาเตลิดไปมากกว่านี้หรอกแค่นี้ก็วิตกกังวลจนขนลุกกันหมดแล้ว อีกทั้งยังมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่รัฐบาลจะต้องต่อประชาชนให้ได้



คุณอาจสนใจ

Related News