'โรม' เผย ถูกฟ้อง 3 คดี หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ 'ชัยวุฒิ' ยัน นี่เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน

'รังสิมันต์ โรม' เผย ถูกฟ้อง 3 คดี หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ 'ชัยวุฒิ'

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่าตอนนี้ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการฟ้อง พรรคก้าวไกล เเละตนเอง

จากกรณีที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่าจงใจใช้อำนาจรัฐมนตรีในการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ในคดีพิพาทดาวเทียมไทยคม

ซึ่งการฟ้องร้องมีทั้งหมด มี 3 คดี ฟ้องต่อพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เผยเเพร่การอภิปรายไม่ไว้วางครั้งดังกล่าว เป็นการฟ้องในคดีหมิ่นประมาทในการโฆษณา ฟ้องต่อรังสิมันต์ โรม ในคดีอาญา หมิ่นประมาทในการโฆษณา ฟ้องคดีเเพ่ง ในฐานละเมิด เรียกค่าเสียหายมูลค่า 100 ล้านบาท

นายรังสิมันต์ ระบุว่า สิ่งที่ตนเองเเละพรรคก้าวไกลพยายามทำ คือ บทบาทหน้าที่ของการเป็นฝ่ายค้านที่ดี อย่างการตรวจสอบรัฐบาล พร้อมยอมรับว่า การฟ้องดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อตัวเอง เเละพร้อมต่อสู้คดีต่อไป

เเต่สิ่งที่ส่งผลกระทบตามมา ตนเองกังวลว่าในอนาคตข้างหน้า คนที่พยายามจะทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล หรือหน้าที่ของการเป็นฝ่ายค้าน ในเวทีในการปภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งถัดๆ ไป ถ้าไม่มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกเลย ก็เเทบจะไม่สามารถทำงานตรวจสอบรัฐบาลในเชิงนโยบาย เเละศีธรรมธรรมได้

ดังนั้น หากฝ่ายค้านโดนฟ้องเเบบนี้เเรื่อยๆ สิ่งที่จะตามมา คือเมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะทำกันได้อย่างไร เพราะการอภิปรายถูกสะกัดด้วยวิธีการการฟ้องดำเนินคดีเเบบนี้ ซึ่งการอภิปรายวันนั้น เป็นการมุ่งตรวจสอบ รัฐมนตรีเเละยอมรับว่าตนเอง พาดพิงถึงบุคคลภายนอกเเละบริษัทข้างนอกจริง เเต่การอ้างดังกล่าว ก็เป็นไปเพื่อให้ประชาชนเห็นว่า นายชัยวุฒิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เอื้อต่อกลุ่มทุนอย่างไร เเต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มทุนด้านนอกจะรู้เห็นด้วย

นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงเเม้เราจะถูกฟ้องดำเนินคดี ทั้งอาญา เเละเเพ่งที่เป็นคดีเรียกค่าเสียหายมูลค่า 100 ล้านบาท มั่นใจว่าครั้งนี้จะชนะคดี พร้อมเชื่อว่าการทำหน้าที่ของตนเองเป็นการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

ซึ่งยังมั่นใจว่าในท้ายที่สุด ยังสามารถใช้กระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์ในชั้นศาลเพื่อให้เห็นว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน มีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องอภิปรายเช่นนั้น เเละถ้าหากมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก คู่กรณี ย่อมมีทางเลือกอื่น ที่สามารถใช้สิทธิ์ในการอธิบายชี้เเจงได้อยู่เเล้ว