เลือกตั้งและการเมือง

กฤษฎีกาไม่ไว้หน้า ส.ว.ออกแถลงการณ์ซัด ให้ข่าวเสียหาย

โดย JitrarutP

26 มี.ค. 2564

70 views

ความคืบหน้าการพิจารณาแก้ไขเนื้อหามาตรา 9 ร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติที่ ส.ว.และพรรคพลังประชารัฐแพ้ฝ่ายค้าน ในการพิจารณารายมาตราวาระ2 ทำให้ต้องเพิ่มเนื้อหาเปิดทางให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อขอทำประชามติได้และเตรียมพิจารณาต่อวาระ2-3 ในการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ อีกครั้งวันที่ 7-8 เม.ย. นี้ เรื่องนี้มีเสียงกระเพิ่มจากทาง ส.ว. มาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ ส.ว. สมชาย แสวงการ ก็ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องที่ขัดรัฐธรรมนูญ ต้องศาลตีความ ขณะที่ ส.ว.วันชัย สอนศิริ ก็ออหมาบอกว่า อาจทำให้ มีการคว่ำวาระ3 ซ้ำรอยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ


ล่าสุด นพ.พลเดช ปิ่นประทีบ ส.ว. ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ก็ออกมาให้ข่าวเมื่อ (25มี.ค.) ทำนองว่าเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญวันที่ 7-8 เม.ย.ตามที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กำหนดนั้น ไม่น่าจะทัน เพราะ คณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขเนื้อหาเสร็จ ไม่ทัน คาดว่าเปิดประชุมได้อีกทีน่าจะเป็นหลังสงกรานต์


สืบเนื่องจากปัญหาดังกล่าวทำให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาออกเอกสารข่าว ชี้แจงกลางดึกเมื่อคืนนี้ (25มี.ค.) โดยระบุว่า


ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวว่า นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ส.ว. ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับแก้เนื้อหาของร่างกฎหมายมาตรา 9 ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย โดยเพิ่มสิทธิรัฐสภาและประชาชน สามารถเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี ทำประชามติ ซึ่งเจ้าหน้าที่กฤษฎีกาขอเวลา 1 สัปดาห์ปรับแก้ไขว่า กฤษฎีกาแจ้งว่า ไม่สามารถพิจารณาเนื้อหาให้เสร็จทันตามกำหนด เพราะมีเนื้อหาที่โยงกับมาตรา 9 หลายมาตรา นั้น


สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอเรียนว่า การให้ข่าวเช่นนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะกรณีดังกล่าวหาได้เป็นเช่นที่มีการให้ข่าวแต่อย่างใดไม่


ในการนี้ สำนักงานฯ จึงขอให้ผู้ให้ข่าวที่บิดเบือนความจริงเช่นนี้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในความเสียหายต่อชื่อเสียงของสำนักงานฯ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ ต่อการกระทำเช่นนี้ จึงเรียนมาเพื่อทราบทั่วกัน นายนพดล เภรีฤกษ์ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมาไม่เคยเห็น สนง.คณะกรรมการกฤษฎีกา ออกเอกสารชี้แจงที่ดุเดือดขนาดนี้มาก่อน น่าจะเป็นเพราะทนกันพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว เพราะหลายครั้ง ส.ว.พยายามหาข้ออ้างซึ่งไปพาดพิงหน่วยงานอื่นๆ เพื่อหวังจะยื้อเวลาการดำเนินการในเรื่องต่างๆ

คุณอาจสนใจ

Related News