'ทักษิณ' ลงพื้นที่อุบลฯ ช่วย พท. หาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ. มั่นใจทวงคืนพื้นที่ ไม่หวั่น 'สนธิ' ลงถนน

การลงพื้นที่อุบลราชธานีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยผู้สมัครนายกอบจ.อุบลราชธานีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งบรรยากาศก็คึกคักไม่แพ้เมื่อครั้งลงช่วยหาเสียงที่อุดรธานี นายทักษิณ ขึ้นปราศรัย ประกาศอย่างมั่นใจว่า เพื่อไทยจะทวงทุกเก้าอี้คืนมา



นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้ นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี ในนามพรรคเพื่อไทยเดินทางไป ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยทันทีที่ นายทักษิณ ไปถึง ได้ทักทาย พูดคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงและมวลชนเสื้อแดงที่มารอรับจำนวนมากกว่า 4,000 คน



จากนั้น ขึ้นเวทีกล่าวกับมวลชนที่มาต้อนรับ บอกว่าดีใจทุกครั้งที่มาอีสาน เพราะพี่น้องชาวอีสานไม่เคยลืม ตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทยก็เป็นแชมป์อีสานมาโดยตลอด แม้คราวที่แล้วพรรคเพื่อไทย จะคะแนนตกไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นแชมป์อยู่ ทำให้รู้สึก เป็นหนี้บุญคนพี่น้องคนอีสาน



นายทักษิณ บอกว่า วันนี้มีจุดประสงค์ 3 ข้อเพื่อเยี่ยมพี่น้องชาวอุบลฯ เพื่อขอบคุณ และเพราะนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ที่เป็นคนที่เดินออกมาอยู่กันมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แล้วไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่งเครื่องบินไปหาตนแทบทุกที่ ตอนที่อยู่เมืองนอกมา 17 ปี



นายทักษิณ กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานีเคยได้สส. มาเกือบทั้งหมด มีเพียงไม่กี่เขตที่พลาด อยากจะขอชาวอุบลฯ เลือกนายกานต์ มาเป็นนายกอบจ. และขั้นตอนต่อไปก็เอา สส. คืนให้กับพรรคเพื่อไทย และขั้นต่อไปพรรคเพื่อไทยจะได้เอานโยบายมาชุบชีวิตชาวอุบล วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลก็จริงอยู่ แต่มีสส. นิดเดียวมีโควต้ารัฐมนตรีน้อยไปหน่อย ทำให้ทำงานยากกว่าเดิมคราวหน้ามั่นใจว่าพี่น้องคงจะคืนสส. ให้พรรคเพื่อไทยเหมือนตอนที่เป็นพรรคไทยรักไทย เมื่อได้คืนมาแล้วเราจะช่วยกันทำงานให้กับพี่น้องได้อย่างเต็มที่ วันนี้ทำไปก็มีปัญหาอุปสรรคพอสมควร แต่ก็ไม่ยอมแพ้และจะเดินหน้า



นายทักษิณ กล่าวอีกว่าวันพรุ่งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะแถลงนโยบาย และเชื่อว่าจะสบายใจขึ้นเพราะขณะทำงานได้ 3 เดือน ก็เข้าใจปัญหา ตนกับนายกฯคุยกันตลอด ถึงปัจจัย 4 วันนี้คนไทยทุกคนต้องมีบ้านเป็น ของตัวเอง หวังว่าชาวอุบลฯ จะเอานายกอบจ. ให้เพื่อไทย และ เอา สส.คืนมา แล้วเราจะคืนความสุขแล้ว ให้กับคนไทยทั้งประเทศ วันนี้ตนกลับมาแล้ว กลับมาทำงานรับใช้ประชาชน และรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท



นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันพรุ่งนี้นายกฯ จะแถลงเรื่องแก้หนี้ครัวเรือน ทั้งบ้านและรถยนต์ และวันที่ 13 ธ.ค. ตนก็จะไปบรรยายให้กับสว.และนักการเมืองของพรรคเพื่อไทย ในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบขีรีขันธ์ จะพูดเรื่องสถานการณ์โลกปัจจุบัน ว่าน่าเป็นห่วง น่ากังวลอย่างไร รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศ



จากนั้น นายทักษิณ เดินลงไปทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ รอบหอประชุมมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พร้อมบอกว่าคงได้กลับมาฉลองตำแหน่งนายกอบจ.อุบลฯ ก่อนจะให้สัมภาษณ์ กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะลงถนนหากรัฐบาลเดินหน้าเรื่อง MOU 2544 ว่า ไม่เป็นอะไร อธิบายกันได้และวันที่ 13 ธ.ค. นี้ ในฐานะที่ MOU 2544 เกิดขึ้นในสมัยตน ก็จะถือโอกาสอธิบายให้ฟัง



เมื่อถามว่านายสนธิบอกว่า นายทักษิณ เป็นต้นตอของปัญหานี้ นายทักษิณ ก็กล่าวว่า ไม่มีอะไรและที่จริงพูดกันรู้เรื่อง ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน ซึ่งระบบการเมืองตลอด 9 ปีที่ผ่านมา สื่อเองรวมไปถึงโซเชียลมีเดียยอมรับความเป็นรัฐบาลของทหาร พอวันนี้ทหารไปและทุกคนยอมรับว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยก็เลยซัดกันเต็มที่ มันก็เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน และหาข้อยุติร่วมกัน



ส่วนกังวลหรือไม่กับการประกาศลงถนนของนายสนธิ นายทักษิณกล่าวว่า การทำอย่างเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิม



ทางด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU 2544 และ JC 2544 ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ของราชอาณาจักรไทย ว่า ได้เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว ก็ได้ดูเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าต้องให้มั่นใจ ต้องหาในเรื่องประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ หนังสือได้รับแล้ว และทุกหน่วยงานก็ช่วยกันดู



นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรี ว่า ครม.อนุมัติ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี )โดยเป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ กลุ่มเปราะบาง ในกลุ่มสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อให้แก้ไขปัญหาหนี้สินได้ โดยเฉพาะหนี้สินครัวเรือนให้เกิดเป็นรูปธรรมและยั่งยืนขึ้น และเรื่องนี้จะแถลงในวันที่12 ธันวาคมนี้ โดยมาตรการเบื้องต้น เช่น การลดการชำระหนี้และดอกเบี้ยผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ เน้นการตัดเงินต้นและดอกเบี้ยเมื่อลูกหนี้ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข เพื่อให้ลูกหนี้สามารถรักษาทรัพย์สิน บ้าน รถยนต์ สถานประกอบการตนเองไว้ได้ และการให้โอกาสลูกหนี้เอ็นพีแอล ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท ให้รับการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้สามารถปิดบัญชีหนี้ได้ และสะสางเครดิตปรับปรุงประวัติการชำระหนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่อไปในอนาคต



นอกจากนั้นสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกหนี้ที่มีประวัติชำระหนี้ดี เพื่อให้มีกำลังใจ รักษาวินัยการเงินการครั้งต่อไป และลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้เรื้อรัง จะมีมาตรการการช่วยเหลือลูกหนี้ของกลุ่มนอนแบงก์ โดยลดภาระผ่อนชำระค่างวด เหลือร้อยละ 70 และลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 จากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 25 ต่อปี เหลือเพียงร้อยละ 15 ต่อปี ส่วนรายละเอียดกระทรวงการคลังจะนำเสนอต่อไป