'อุ๊งอิ๊ง' เปิดใจหลังพรรคร่วมรัฐบาล หนุนเป็นนายกฯ คนที่ 31 ไม่คิดถึงตอนจบซ้ำรอย 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์'

พรรคร่วมรัฐบาลเดิม พร้อมสนับสนุนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เพื่อเดินหน้าการทำงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยืนยันจะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ และพร้อมทำหน้าที่โดยครอบครัวเคารพการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร ขอให้รอผลการเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ



นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบรับที่จะสนับสนุนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันพรุ่งนี้ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย



ซึ่งนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้แจ้งต่อพรรคร่วมรัฐบาลเดิม และมาร่วมแถลงข่าวสนับสนุน นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 อย่างพร้อมเพรียง ทั้ง พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เห็นว่า ต้องสานต่อการทำงานของรัฐบาลเดิมตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ต่อเนื่องจึงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลต่อไป



นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา เห็นว่า นางสาวแพทองธาร จะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 และอายุน้อยที่สุด ซึ่งอยากให้มองการเปลี่ยนแปลงที่คนรุ่นใหม่อาจนำสิ่งใหม่มาสู่ประเทศชาติได้ เช่นเดียวกับนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไท นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง



นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขอบคุณกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลสำหรับการสนับสนุน พร้อมจะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ แต่ขอให้รอดูผลลงมติพรุ่งนี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็รู้สึกเสียดาย เพราะนายเศรษฐา มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติ และส่วนตัวมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะนำพาประเทศไทยไปยังเป้าหมายต่อไป



นางสาวแพทองธาร เปิดเผยว่ายังไม่ได้คิดเรื่องผลทางการเมืองจะซ้ำรอยนายทักษิณ ชินวัตร แและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ เพราะยังไม่มีเวลาคิด และแน่นอนว่าการตัดสินใจจะรับหน้าที่นายกรัฐมนตรี ต้องปรึกษาครอบครัว และครอบครัวโดยเฉพาะแม่ย่อมเป็นห่วงเป็นธรรมดา แต่ต่างเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน



ส่วนจะเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อไปหรือไม่ ขอให้ผ่านการเลือกนายกรัฐมนตรีไปก่อน ถึงจะนำมาหารือในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน ส่วนภาพการรับประทานอาหารร่วมกับนายเศรษฐา ยอมรับว่าได้พูดคุยกันถึงการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายเศรษฐา สนับสนุนให้นางสาวแพทองธาร ทำหน้าที่นี้



สำหรับการเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ นางสาวแพทองธาร ไม่ได้เดินทางไปยังอาคารรัฐสภา เพราะไม่ได้เป็น สส.และการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ ส่วนคะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ที่มาแถลงข่าววันนี้ คือ



พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 70 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง และพรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง รวม 314 เสียง



ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีพรรคประชาชน 143 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคเป็นธรรม พรรคใหม่ พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคไทยก้าวหน้า พรรคละ 1 เสียง รวม 179 เสียง ซึ่งการเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ไม่มีสมาชิกวุฒิสภาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี



สำหรับประวัติของนางสาวแพทองธาร เกิดวันที่ 21 สิงหาคมปี 2529 ปัจจุบันอายุ 37 ปี เป็นบุตรคนเล็กของ นายทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ จบปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มทำงานการเมืองในตำแหน่ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นางสาวแพทองธาร เป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ