'เศรษฐา' เปิดใจหลังพ้นนายกฯ รับเสียใจถูกตีตราไม่มีจริยธรรม ยันทำหน้าที่สุจริต

นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดใจหลังต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าเสียใจที่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีจริยธรรม ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้กระทำเช่นนั้น แต่เคารพในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่าจะให้ช่วยงานการเมืองหรือไม่ และไม่ขอให้ความเห็นว่าใครจะเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป



นายเศรษฐา เปิดใจทันทีหลังทราบผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งยอมรับในคำวินิจฉัย แต่เสียใจที่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีจริยธรรมเพราะ ตลอดเกือบ 1 ปี ที่ดำรงตำแหน่ง พยายามทำทุกอย่างอย่างถูกต้อง เป็นความตั้งใจจริงในการทำงานที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ ซื่อสัตย์สุจริต และรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย



นายเศรษฐา ไม่ขอย้อนกลับไปตอบว่า ถูกวางยาหรือไม่ ในการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี หรือเหตุผลใดทำไมถึงกล้าเสี่ยง ซึ่งได้ยืนยันต่อศาลรัฐธรรมนูญไปหมดแล้ว และหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของรักษาการนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี จะทำงานเดินหน้าต่อไป ก่อนจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งแคนดิเดตที่มีอยู่เหมาะสมทุกคน ไม่ขอให้ความเห็นทางการเมือง ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าจะทำงานการเมืองหรือไม่ ขึ้นอยุ่กับพรรคเพื่อไทย เพราะยังเป็นสมาชิกพรรค



นายเศรษฐา เปิดเผยว่า งานที่จะทำหลังจากนี้คงเป็นการลอยอังคารมารดา ที่คงทำได้เร็วขึ้น และที่ผ่านมาภูมิใจในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และคิดว่าจุดสูงสุดในชีวิต คือการเป็นลูกที่ดี



นายเศรษฐา เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที โดยมีรัฐมนตรี เช่น นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ นายจุลพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายจักรพงษ์ แสงมณี และทีมงานนายกรัฐมนตรี เพียงไม่กี่คนที่รอส่งขึ้นรถ ถือเป็นการสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของนายเศรษฐา ทีวิสิน นับจากวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ก่อนครบ 1 ปี เพียง 8 วัน