เลือกตั้งและการเมือง
ถกงบฯ 68 วันที่ 2 จัดหนักงบกลาโหม จัดงบเกินตัว - 'สุทิน' รมต.หุ่นเชิด
โดย panwilai_c
20 มิ.ย. 2567
69 views
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ในวันที่ 2 มาเข้มข้นในช่วงค่ำ ที่เป็นการอภิปรายงบประมาณกระทรวงกลาโหม โดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผิดหวังกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีพลเรือนของนายสุทิน คลังแสง ที่ทำหน้าที่เพียงหุ่นเชิดเท่านั้น
การอภิปรายงบประมาณปี 2568 เข้มข้นขึ้นในช่วงค่ำ หลังการอภิปราย ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ที่มองว่า แม้จะมีการลดงบบุคลากรลงแต่เป็นไปตามอัตราที่มีการเกษียณ แต่กลับไปพบความพยายามในการทบทวนกำลังพล ที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมที่เป็นพลเรือน จะใช้โอกาสนี้ทำได้แต่ไม่ทำ ในขณะที่การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ก็ไม่สมเหตุสมผล เช่น กองทัพบกให้ความสำคัญกับอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนต่ำมาก มีการจัดซื้อเพียง 10 ลำ วงเงิน 700 ล้านบาท ทั้งๆที่สามารถนำมาใช้เพิ่มศักยภาพในการรักษาความสงบชายแดนไทย-เมียนมา
และเป็นการจัดทำงบประมาณที่ไม่คำนึงถึงรายงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เป็นเพียงเสือกระดาษ ทำให้ประชาชนผิดหวังกับการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีที่เป็นพลเรือน เพราะการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองเพื่อให้กองทัพอยู่ภายใต้พลเรือน นอกจากนายกรัฐมนตรีแล้ว รัฐมนตรีพลเรือนอย่างนายสุทิน คลังแสง ก็น่าจะทำหน้าที่ได้ดีกว่าการเป็นเพียง หุ่นเชิด ชักใย แก้ต่างให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น
ในขณะที่สื่อมวลชนคาดการณ์ว่านายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะมาชี้แจง แต่กลับมี นายรัฐ คลังแสง สส. พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบุตรชายนายสุทิน มาอภิปรายในส่วนของ สส.รัฐบาล โดยเน้นไปที่งบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่เห็นว่าแม้จะตั้งงบเพิ่มขึ้นกว่า 5 พันล้านบาท แต่เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการลดรายจ่ายประจำจากการปรับอัตรากำลังพลได้ลดลง 2,518 ล้านบาท
ซึ่งล่าสุด นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของนายวิโรจน์ และนายชยพล สท้อนดี สส.พรรคก้าวไกล
ส่วนประเด็นอื่นๆในช่วงค่ำ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม อภิปรายงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องบินลำเลียงและเฮลิคอปเตอร์ ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เป็นการตั้งงบเกินตัว ในปี 2568 มีการตั้งงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท ซื้อเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีงบผูกพันอีกว่า 12,000 ล้านบาท
โดยให้เห็นผลเพื่อสนับสนุนภารกิจมนุษยธรรม แต่อาจไม่ได้ประสิทธิภาพ หากอยากจะมีแค่แอร์ฟอร์ซวันไว้สนับสนุนภารกิจนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ควรใช้งบประมาณจำนวนมากหรือทำหน้าที่เป็นสถาบันการบินพลเรือนหรือกองทัพอากาศ
ขณะที่ นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายแสดงความเสียใจที่งบปี 68 ไม่ใส่ใจกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่แค่อิคนอร์ แต่ไม่แยแส จัดตามแผนเดิมที่หน่วยงานตั้งมาให้ ไม่สะท้อนให้เห็นเป้าหมายที่จะยุติความรุนแรงให้ได้ในปี 2570 รวมถึงการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ก็ไม่ให้ความสำคัญ สิ่งที่อยากเห็นคือความกล้าหาญของรัฐบาลที่จะยกเลิกกฏอัยการศึกเสียที
สำหรับวันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มาร่วมรับฟังการอภิปรายตลอดทั้งวัน และเดินทางออกจากรัฐสภาเมื่อช่วงเย็นโดยที่ไม่ได้มีการชี้แจงในที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ได้ลงมาทักทายสื่อมวลชนที่ห้องสื่อมวลชนประจำรัฐสภา โดยมีอารมณ์ดี ก่อนเดินทางกลับไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อประชุมด้านเศรษฐกิจกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร