สภาฯ รับหลักการ 4 ร่าง แก้พ.ร.บ.ประชามติ พร้อมตั้งคกก.ศึกษา 31 คน

นอกจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ผ่านวุฒิสภา วันนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ รับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ถูกเสนอเข้าสู่สภาทั้ง 4 ฉบับ โดยจะใช้ร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักและตั้งคณะกรรมการศึกษา 31 คน



การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ วันนี้มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งมีผู้เสนอสู่สภา รวม 4 ฉบับ คือ ฉบับของคณะรัฐมนตรี ฉบับของพรรคเพื่อไทย ฉบับของพรรคก้าวไกล และฉบับของพรรคภูมิใจไทย



โดยการอภิปรายทั้งสมาชิกฝ่ายค้านและรัฐบาล ส่วนใหญ่ เห็นด้วยในทิศทางเดียวกัน คือ ต้องการให้การออกเสียงประชามติ สะดวกเป็นธรรม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการออกเสียงประชามติ เป็นกระบวนการความเป็นธรรมสูงสุดของประเทศ ของผู้มีอำนาจแท้จริง คือ ประชาชน ได้มีส่วนร่วมใช้สิทธิออกเสียงโดยตรง ในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง และได้มีผลกระทบ ซึ่งเป็นพื้นฐานการปกครองประชาธิปไตย



จนท้ายที่สุดที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการร่างทั้ง 4 ฉบับ ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 451 เสียง และได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ 31 คน ทั้งนี้ ในการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญ พรรคก้าวไกลเสนอได้ 7 คน​โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ขณะที่สัดส่วนของคณะรัฐมนตรี มี นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยด้วย โดยกรรมาธิการวิสามัญมีระยะเวลาการแปรญัตติ 15 วัน โดยมี ร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นร่างหลักในการพิจารณาวาระที่ 2