นายกฯ โต้ 'ชวน' ใช้มุกด้อยค่าเดิมๆ ยันไม่เลือกปฏิบัติลงพื้นที่ภาคใต้

นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากอาคารรัฐสภาไปแล้ว หลังมีการชี้แจงการอภิปรายของนายชวน หลีกภัย ที่ทำให้มีการตอบโต้และการประท้วง โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่เลือกปฏิบัติ และเปรียบฝ่ายค้านใช้มุกด้อยค่า



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงการอภิปรายของนายชวน หลีกภัย ยืนยันว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติในการลงพื้นที่ การลงพื้นที่ภาคใต้ที่ไม่มี สส.ก็เพื่อยืนยันว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกพื้นที่ไม่แบ่งแยก จึงไม่อยากให้ฝ่ายค้านใช้มุกด้อยค่า ใช้มุกเดิมๆ จึงไม่แปลกที่มี สส.พรรคประชาธิปัตย์จะไหลไปพรรคอื่น จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และยืนยันเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะอยากใช้แนวทางการให้โอกาส ในการสร้างความมั่งคั่ง ซึ่งจะลงพื้นที่อีกแน่นอน



ขณะที่นายชวน ต้องลุกมาตอบโต้กลับ ยืนยันว่าไม่เคยกล่าวหานายกรัฐมนตรี แต่พูดถึงพรรคไทยรักไทยในอดีต จึงไม่อยากให้นายกรัฐมนตรี และยืนยันว่าไม่เคยแผ่นเสียงตกร่อง



ในช่วงประมาณ 20 นาฬิกา 30 นาที นายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆเพิ่มเติม โดยนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตลอดทั้งสองวัน แต่เดินทางกลับก่อนที่การประชุมจะแล้วเสร็จ โดยวันพรุ่งนี้จะเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทยและประชุมพิจารณางบประมาณปี 2568



ส่วนการอภิปรายประเด็นที่น่าสนใจในช่วงค่ำ นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สส.จ.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดการปัญหาผู้ลี้ภัย หลัง 3 ปี การรัฐประหารของเมียนมา ที่สะท้อนถึงความล้มเหลววในการจัดการปัญหาของรัฐบาลทั้งการจัดการผู้ลี้ภัยทางการเมืองและผู้ลี้ภัยทางชายแดน รวมถึงความล้มเหลวในการรับมือสถานการณ์แรงงานข้ามชาติ รวมถึงการช่วยเหลือมนุษยธรรม ที่นายกรัฐมนตรีขาดความเข้าใจ จึงต้องมีแผนที่ชัดเจน และกล้าหาญแสดงความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญในการผลักดันสันติภาพในเมียนมา



ขณะที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรมอภิปรายนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาล ที่เป็นการทูตแบบ 3 หลง คือ หลงผิด หลงทาง และหลงตัวเอง ทั้งการทูตเชิงอนุรักษ์นิยม ไม่ใช้การทูตสาธารณะ จนสอบตกในทุกเรื่องทั้งการมุ่งเน้นเรื่องการค้า และยังร่วมกันกดปราบผู้ลี้ภัย ละเมิดสิทธิมนุษยชน เปิดเวีซ่าฟรี แต่นำมาซึ่งการค้ามนุษย์จากแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์ เป็นการทูตแบบลู่ลม ไม่มีจุดยืน และไม่มีนโยบายสันติภาพที่เป็นสากล รวมถึงการสร้างสันติภาพในเมียนมา ที่ไม่ทำแค่ระเบียงมนุษยธรรม แต่ต้องทำระเบียงสันติภาพด้วย



ส่วนรัฐมนตรีที่ชี้แจงในช่วงค่ำเช่น นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ชี้แจงเรื่องนโยบายกัญชา จากการอภิปรายของนายร่มธรรม ขำนุกรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่ากัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น คือสถานะของกัญชาในปัจจุบัน ถ้าจะนำมาใช้ทางการแพทย์ รัฐต้องออกกฏหมายมาควบคุม โดยกำลังเสนอเสนอร่างกฎหมายกัญชง-กัญชา จะเป็นกฎหมายควบคุมกัญชา ที่นอกเหนือไปจากทางการแพทย์และสุขภาพ และเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน