ซักฟอกรัฐบาลวันแรกเดือด! ฝ่ายค้านจัดหนัก ซัดบริหารไร้ประสิทธิภาพ-ไม่ทำตามสัญญา

การอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 152 ในวันแรก ซึ่งเริ่มต้นด้วยความเข้มข้น รัฐบาลขอเวลาการชี้แจงเพิ่มเป็น 10 ชั่วโมง ขณะที่ฝ่ายค้านมีเวลา 22 ชั่วโมง ในการอภิปราย 2 วัน



นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ด้วยคณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลา 6 เดือน แต่ไม่ได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ที่ได้ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายที่ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพ หรือความชัดเจนในการขับเคลื่อนนโยบาย หรือแก้ปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม



นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง และไร้วุฒิภาวะ ขาดภาวะผู้นำ เห็นได้จากการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแบบสมบัติผลัดกันชม และการทำงานที่ผ่านมายังวกไปวนมา โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมือง ประชาชนยังไม่รู้เลยว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร



นายกรัฐมนตรี ชี้แจงทันทีว่า การกล่าวหาของผู้นำฝ่ายค้านรุนแรงพอสมควร ทั้งๆที่รัฐบาลมั่นใจว่าการทำงานที่ผ่านมาโปร่งใส มีผลงาน หากมีข้อเสนอแนะที่ดีก็จะรับฟัง แต่เรื่องใดกล่าวหาเกินจริงก็ขอให้มีหลักฐาน



นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า 7 เดือนรัฐบาลใช้เงินไปแล้วแต่ยังสอบตก เพราะรัฐบาลชุดนี้มัวแต่ใช้การตลาดนำการบริหาร เอาแต่สร้างภาพ แต่หลังภาพทุกวงการลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์ว่า ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน วัน ๆ มีแต่อีเวนต์ ขณะที่นายกรัมนตรี ใน 180 วัน อยู่เมืองนอกแล้ว 52 วัน จึงมีการตั้งคำถามว่าบินไปทำการตลาด หรือทำการตลก พยายามแสดงบทบาทเซลล์แมน แต่ปิดการขายได้หรือไม่ คนไทยอยากเห็นนายกรัฐมนตรีบินเหมือนเหยี่ยมมากกว่าแมลววัน



ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงว่า รัฐบาลใช้งบประมาณไปแล้วไม่ต่ำกว่า 40% ข้อเท็จจริงถูกเพียงครึ่งหนึ่ง เชื่อว่าหากงบประมาณปี 2567 ประกาศใช้ก็จะมีนโยบายขับเคลื่อนตามนโยบายของแต่ละกระทรวง และ ยืนยันว่า 10 เม.ย.นี้ จะมีข่าวดีให้กับประชาชนคนไทยเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน



ขณะที่พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ลุกขึ้นชี้แจงนายจุรินทร์ ยืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้ประโยชน์จากกฏหมายกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามปกติ และกฏหมายนี้ก็ออกมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะเอื้อประโยชน์ต่อนายทักษิณ ได้