เลือกตั้งและการเมือง
'พิธา-ชัยธวัช' มั่นใจ ปมหาเสียงแก้ 112 ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
25 ธ.ค. 2566
28 views
ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย กรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ถูกร้องว่านโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในวันที่ 31 มกราคม 2567 ขณะที่นายพิธา พอใจในการชี้แจงต่อศาลในชั้นไต่สวนพยานวันนี้ ยืนยันไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง แต่เป็นการเสนอทางออกวิกฤตการเมือง และใช้กลไกรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา
วันนี้ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังเข้ารับการไต่สวนในคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในขณะที่เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่
นายพิธา ยืนยันความมั่นใจหลังจากที่ได้ชี้แจงในชั้นการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่าการไต่สวนเป็นไปด้วยความราบรื่นดี และพอใจในการแถลงข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและข้อสงสัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายในการชี้แจงทั้ง 2 คดี ที่มั่นใจในข้อเท็จจริงหลายเรื่อง เช่น ข้อเสนอการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติและไม่ใช่พรรคก้าวไกลดำเนินการเป็นพรรคแรก ที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผลออกมาในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยการบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง และยังมีการแสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 จากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหลายคนในช่วงการหาเสียง ยืนยันเป็นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติตามที่ได้มีการหาเสียงเอาไว้ ไม่ได้มีเจตนาหรือการกระทำใดที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด
นายพิธา ระบุว่า ไม่ว่าผลวินิจฉัยออกมาอย่างไรจะเป็นคุณหรือเป็นโทษก็ยังคงทำงานกับพรรคก้าวไกลต่อไป ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่หากผลวินิจฉัยเป็นคุณก็จะได้กลับไปปฎิบัติหน้าที่ สส. ส่วนบทบาทในพรรคก้าวไกลรอความชัดเจนในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีช่วงเดือนเมษายน 2567 ทั้งนี้ในอนาคตจะเป็นอย่างไรจะต้องรอผลคำวินิจฉัยของศาลออกมาก่อน ส่วนจะส่งผลอย่างไรต่อจุดยืนพรรคและ สส. เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะเลขาธิการพรรคก้าวไกลขณะนั้น กล่าวภายหลังการเข้ารับการไต่สวนว่า การไต่สวนผ่านไปได้ด้วยดี มั่นใจ ข้อเท็จจริงของกฎหมายและเจตนา สามารถชี้ได้ว่าไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการทำคำชี้แจงมาก่อนแล้ว ในประเด็นสำคัญ วันนี้เป็นการตอบคำถาม ประเด็นที่ทางตุลาการต้องการซักถามเพิ่มเติม ซึ่งการถามคำถามในวันนี้มีความหลากหลาย แต่ไม่สามารถพูดได้ทั้งหมด เพราะระหว่างไต่สวนนายพิธากับตนเอง ไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกัน
เสียง
สำหรับคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยในวันพุธที่ 31 มกราคม 2567 เวลา 14 นาฬิกา โดยนายพิธาจะถูกวินิจฉัยเรื่องถือหุ้นสื่อไอทีวีก่อนในวันที่ 24 มกราคม