เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' มั่นใจหลักฐานคดีหุ้นไอทีวี ยันเป็นผู้จัดการมรดก

โดย panwilai_c

20 ธ.ค. 2566

27 views

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย การถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นการถือหุ้นสื่ออันเป็นผลให้การเป็น สส.สิ้นสุดลงหรือไม่ ในวันที่ 24 มกราคม 2567 หลังจากวันนี้ศาลได้นัดไต่สวน 3 ฝ่าย ทั้งบริษัทไอทีวี กกต.และนายพิธา ซึ่งนายพิธา เปิดเผยว่าได้ชี้แจงครบถ้วนตามพยานหลักฐานว่าไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ และการเป็นผู้จัดการมรดก



นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พอใจการเข้าไต่ส่วนต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดีหุ้นไอทีวี เป็นครั้งแรก นับจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตรวจสอบ นายพิธา มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการถือหุ้นสื่อ หรือไม่ เหตุมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส. จนกระทั่ง กกต.ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพการเป็น สส.ของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ตั้งแต่วันนั้นเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว และ 7 เดือนนับตั้งตั้งมีการมีการยื่นเรื่องนี้ และกินเวลา 8 เดือนก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยคดีหุ้นไอทีวีในวันที่ 24 มกราคม 2567 ซึ่งนายพิธา พร้อมกลับมาทำหน้าที่ สส.หากไม่มีความผิด



คำให้การสำคัญของนายพิธา มุ่งชี้ให้เห็นว่า ไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อในวันที่เขาสมัครรับเลือกตั้ง สส. โดยมีหลักฐานยืนยันว่าไอทีวีได้ยุติประกอบกิจการไปแล้วตั้งแต่ปี 2550 ตามคำสั่งศาลปกครอง และหลักฐานการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทไอทีวี ตั้งแต่ปี 2558,2560 และ 2566 ส่วนคลื่นความถี่โทรทัศน์ก็เป็นของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสไปแล้ว รวมถึงไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสื่อจาก กสทช. หากไอทีวียังคงประกอบกิจการสื่อก็ต้องมีคลื่นความถี่และใบอนุญาตจาก กสทช.



นายพิธา ยังยืนยันถึงการถือหุ้นเป็นการถือแทนน้องชายในนามผู้จัดการมรดกเท่านั้น ซึ่งได้แสดงหลักฐานการขอสละเจตนาก่อนสมัครรับเลือกตั้ง สส.พรรคอนาคตใหม่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียดเพราะจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล



นอจากนี้การไต่สวนพยานบุคคของศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีนายคิมห์ สิริทวิชัย ในฐานะประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เข้ามาชี้แจงด้วย ซึ่งมีรายงานว่า ศาลได้สอบถามว่า ไอทีวียังประกอบกิจการสื่อหรือไม่ ซึ่งนายคิมตอบเพียงว่าเป็นเรื่องของอนาคตและต้องขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้น สาวนประเด็นความแตกต่างระหว่างคลิปวีดีโอกับบันทึกการประชุม นายคิมห์ ชี้แจงเหมือนที่ได้ชี้แจงไปแล้วว่าบันทึการประชุมในเอกสารเป็นการสรุปความเท่านั้น



ส่วนนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชี้แจงในฐานะผู้ร้อง มีรายงานว่า กกต.ชี้แจงในประเด็นว่าตรวจสอบอย่างไรว่า ไอทีวียังประกอบกิจการสื่อ โดยกกต.พิจารณาไปตามหนังสือรับรอง สบช.3 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งยังไม่เลิกกิจการ จึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามหน้าที่



นับจากวันนี้อีก 1 เดือนจึงต้องรอฟังคำวินิจฉัยคดีหุ้นไอทีวี ที่จะชี้ชะตาทางการเมืองของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในวันที่ 24 มกราคม 2567

คุณอาจสนใจ

Related News