เลือกตั้งและการเมือง
ก้าวไกลขับ 'หมออ๋อง' พ้นพรรค ลุยฝ่ายค้านเชิงรุก - 'เศรษฐา' เยือนกัมพูชา ย้ำความสัมพันธ์ใกล้ชิด
28 ก.ย. 2566
49 views
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองวันนี้ เมื่อค่ำที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์ ยืนยันขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อให้ พรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้อย่างเต็มที่ โดยระบุว่านายปดิพัทธ์ แสดงความประสงค์ที่จะทำหน้าที่รองประธานสภาพผู้แทนราษฎรตามที่ตั้งใจไว้ ขณะเดียวกัน วันนี้ นายกรัฐมนตรี ไทย-กัมพูชา ได้พบปะครั้งแรกหลังรับตำแหน่งใหม่ เพื่อยืนยันความใกล้ชิดและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้หารือทวีภาคีกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งเป็นการ
พบกันครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ หลังจากเข้ารับตำแหน่ง โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญว่าผู้นำทั้งสองได้ หารือถึง ประเด็นสำคัญต่างๆ ร่วมกัน ทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่จะส่งเสริมการการค้า การลงทุน และการพัฒนาพื้นที่ชายแดน /ด้านการท่องเที่ยว ที่จะเพิ่มความร่วมมือ ด้านการ ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ พร้อมทั้งขอให้กัมพูชาอนุญาตให้ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เป็นต้น
ล่าสุด นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความอีกครั้ง หลังกลับจากไปเยือนกัมพูชา โดยระบุว่าซาบซึ้ง และประทับใจ ในฐานะที่เป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่ไปเยือนหลังรับตำแหน่ง นายกรฐมนตรี กัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ไทยสนิทสนม พี่น้องประชาชนชาวไทยและกัมพูชามีความผูกพันแน่นแฟ้นกันมายาวนาน ทำให้การเดินทางมาเยือนกัมพูชา ครั้งนี้ สัมผัสได้ถึงมิตรไมตรีที่มีต่อกัน
และในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเยือนกัมพูชานั้น ก็ยังมีการประชุมรัฐสภา ซึ่งมีการอภิปรายในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นว่าด้วยการปฎิรูปองค์กรตำรวจ ซึ่งนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งความเห็นข้อร้องเรียนของสภาฯ ให้ ครม. นำไปสู่การปฏิรูปตำรวจ โดยยกกรณีตัวอย่างการแต่งตั้งโยกย้าย และการทุจริตคอรัปชั่นในองค์กร ที่ทำให้สังคมไม่เชื่อมั่น
นายรังสิมันต์ ถามถึงความจริงใจในการปฎิรูปตำรวจของนายกรัฐมนตรี และเสนอแนวทางปฎิรูปด้วยกระดุม 5 เม็ด คือหนึ่ง ต้องทำให้การเลือก ผบ.ตร. มาจากความสามารถ เช่นเปิดให้รอง ผบ.ตร.สมัครพร้อมแฟ้มผลงาน การแสดงวิสัยทัศน์ต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กรตำรวจ และทำแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้ตำรวจทั่วโหวตได้ แม้ไม่ใช้การชี้วัด แต่จะประเมินทัศนคติ และขจัดทุจริตได้
สองแก้ไข พ.ร.บ. ตำรวจฯ กระจายอำนาจให้ตำรวจจังหวัด และประชาชนมีบทบาท กำหนดทิศทางแก้ไขป้องกันอาชญากรรม และการ แต่งตั้งโยกย้าย ไม่ใช่ดุลยพินิจ เฉพาะผู้บังคับบัญชาอย่างเดียว
สาม คือปรับปรุงเงินเดือนที่เหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เดือดร้อนแล้วต้องไปขูดรีน สี่คือรัฐบาลส่งเสริมให้ชั้นประทวน มีโอกาสเติบโตในอาชีพมากขึ้น และห้า รัฐบาลต้องเลือกสิ่งที่ไม่จำเป็น ที่ตำรวจต้องทำ เช่น การติดตามผู้บังคับบัญชา และโครงการที่ไม่จำเป็นงานตำรวจต้องรับผิดชอบ เช่น งานอนุรักษ์พันธุกรรมพืช หรือยกเลิกระเบียบบังคับตัดผมขาว 3 ด้าน ซึ่งหลังการอภิปรายวันนี้ จะมีการเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณาศึกษาญัตติอีกครั้งหนึ่
ส่วนอีกประเด็นที่เคลื่อนไหวล่าสุด คือพรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์เมื่อหัวค่ำที่ผ่านมาว่า แถลงเหตุจำเป็นต้องขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พ้นจากสมาชิกภาพ พรรคก้าวไกล โดยอ้างเหตุผล 6 ข้อ ซึ่งใจความโดยสรุประบุว่า ที่ประชุมพรรค เห็นตรงกันควรเดินหน้าเป็นฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
โดยให้นายชัยธวัช ตุลาธน รับตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราฎร และกรรมการบริหารพรรค ได้หารือนายปดิพัทธ์ แล้ว ทราบว่าประสงค์จะทำหน้าที่ รองประธานสภา ผู้แทนราษฎรต่อไป เพื่อผลักดันให้สภา มีประสิทธิภาพ รวมถึงผลักดันให้กระบวนการตรวจรับอาคารรัฐสภา ซึ่งมีสัญญาก่อสร้างมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท มีความโปร่งใส
เมื่อนายปดิพัทธ์ ยืนยันความประสงค์แล้ว ที่ประชุมจึงมีมติ ให้นายปดิพัทธ์ ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตามบทบัญญัติข้อบังคับของพรรค และรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม นายปดิพัทธ์ มีเวลา 30 วัน นับจากที่ถูกขับออกจากพรรค เพื่อไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการ เปิดเผยจากนายปดิพัทธ์ ว่าจะไปสังกัด พรรคใด แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีทั้งพรรคเป็นธรรม และพรรคไทยสร้างไทย ประกาศตัวพร้อมรับนายปดิพัทธิ์ เข้าเป็นสมาชิกพรรค