เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' ประชุมครม.นัดพิเศษ ยันมีอิสระในการบริหาร ขอเวลาพิสูจน์ 3-6 เดือน

โดย panwilai_c

6 ก.ย. 2566

21 views

การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ โดย นายกรัฐมนตรี ขอทำงานเพื่อประชาชน และยืนยันมีอิสระในการบริหารประเทศ ซึ่งพร้อมรับฟังคำแนะนำจากทุกภาคส่วน ขอเวลา 3-6 เดือนพิสูจน์การทำงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พร้อมสนับสนุนให้เด็กไทยหลุดออกนอกระบบเป็นศูนย์



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และรัฐมนตรีอีกหลายคนร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล



ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกเพื่อให้ความเห็นชอบคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 กันยายนนี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงการเป็นรัฐบาลของประชาชน ลืมความเหน็ดเหนื่อย ยึดตามหลักกฏหมายและความชอบธรรม มั่นใจว่าการแถลงจะผ่านไปด้วยดี โดยรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็พร้อมชี้แจง ก่อนจะประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกในวันอังคารที่ 13 กันยายน และในวันที่ 8 ถึง 9 กันยายน นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย เพื่อรวบรวมปัญหาจากประชาชน



นายกรัฐมนตรียืนยันว่ามีอิสระในการบริหารประเทศ ไม่ว่าจะมาจากครอบครัวชินวัตรหรือใครก็พร้อมรับฟังคำแนะนำที่ดี และขอเวลา 3 ถึง 6 เดือนในการพิสูจน์ผลงาน



ขณะที่รัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมหลายคนต่างพากันชี้แจงถึงนโยบายที่ถูกตั้งคำถาม เช่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงเรื่องนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ที่เข้าใจผิดว่าเป็นเพียงนโยบายหาเสียงนั้น ยืนยันว่า เป็นนโยบายที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะต้องรวบรวมข้อมูลจากทุกระบบขนส่งมวลชน คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท และใช้เวลาไม่เกิน 2 ปีนี้



นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ชี้แจงถึงนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์พาวเวอร์ เป็นการต่อยอดนโยบายโอทอป 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ จากรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่จะให้กับครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อเดือน ต่อยอดสร้างรายได้



นายกรัฐมนตรียังได้พบกับผู้บริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในการสนับสนุนการศึกษาให้เด็กยากจนที่ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานบอร์ด กสศ. เปิดเผยว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาการทำงานของ กสศ.ได้ช่วยเด็กไม่ให้หลุดออนอกระบบการศึกษาได้กว่า 3.5 ล้านคน แต่ยังเกิดขาดเรื่องงบประมาณ ทางนายกรัฐมนตรีจึงพร้อมหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อออกสลากเสมอภาค ระดมทุนสนับสนุนการทำงานของ กสศ. ซึ่งเห็นด้วยที่ต้องทำให้เด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาเป็นศูนย์ หรือ Zero Droupout



สำหรับวันนี้ก่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้กลับมานั่งรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนจากรถยนต์ส่วนตัว โดยบอกว่า สามารถนั่งรถประจำตำแหน่งได้ แม้จะมีปัญหาเรื่องความสูง แต่ก็ยินดีที่ใช้งานได้

คุณอาจสนใจ

Related News