'เศรษฐา' ยันจะเป็นรัฐบาลของปชช. ฟื้นคืนเศรษฐกิจเร่งผลักดันเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท คาดเริ่มจ่าย 1 ก.พ. 67

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลของประชาชนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยจะประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษวันพรุ่งนี้เพื่อเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา วันที่ 11 กันยายนนี้ และคาดว่าจะจ่ายเงินดิจิตัลวอลเลตได้ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ถ่ายภาพร่วมกันที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ของคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 63 ซึ่งมีคณะรัฐมนตรีทั้งหมด 34 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ก่อนที่ นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรี แถลงข่าวภายในตึกสันติไมตรี พร้อมน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางปฏิบัติราชการต่อไป


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่าจะเป็นรัฐบาลของประชาชนและจะทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยทุกวันนี้ ในวันพรุ่งนี้จะประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเพื่อเตรียมการแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 11 กันยายนนี้ และสุดสัปดาห์จะเดินทางไปจังหวัดขอนแก่อน อุดรธานี และหนองคาย ส่วนการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีจะหารือกันและให้ได้ข้อสรุปในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกในวันอังคารที่ 12 กันยายน โดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะฟื้นคืนเศรษฐกิจให้สำเร็จ และจะเร่งผลักดันเงินดิจิตัลวอลเลต 10,000 บาท คาดส่าจะจ่ายงวดแรกได้ 1 กุมภาพันธุ์ 2567


ขณะที่รัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่าง พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่าจะเข้าทำงานที่กระทรวงทรัพย์ในทันที ซึ่งได้หารือกับปลัดกระทรวงแล้ว ส่วนตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจะดูแลความมั่นคงแทนพี่ชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่ คงต้องรอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ส่วนงานการมืองก็ไม่เคยคิดจะไปยึดตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจากพลเอกประวิตร ที่ยังดูแลอยู่อย่างแน่นอน


ขณะที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่าพลเอกประวิตร ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ลาออกจาก สส.และตำแหน่งรัฐมนตรีอีก 1 คนยังเป็นโควต้าของนายไผ่ ลิคก์ ที่รอการตีความทางกฏหมาย มั่นใจว่ารัฐบาลทำงานกันได้อย่างมีเอกภาพ


ส่วน 8 รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย กลายเป็นที่จับตามากที่สุด เพราะมีการถ่ายภาพร่วมกันนำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ยืนยันว่ารัฐมนตรีของพรรคทั้งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สามารถทำงานได้อย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้ทั้งนายชาดา และ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ นอกจากเป็นที่สนใจถูกจับภาพจากสื่อมวลชน


ส่วนรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่ถูกจับตา ทั้งนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับเหล่าทัพให้ดีที่สุด และมีเรื่องท้าทายทางนโยบายอีกมาก

เช่นเดียวกับนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็พร้อมทำงานสานต่อกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดีอีเอส พร้อมปราบคอลเซ็นเตอร์ ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผลักดันค่ารถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาท รวมถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าจะมีการผลักดันให้ลดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันในการประชุมนัดแรก


นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีหน้าใหม่จากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น รัฐมนตรีหญิงทั้ง 5 คน เช่น นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนางสุดาวรรณ หวังศุภกิจ โกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากพรรคเพื่อไทย รวมถึงนางสาวศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา และนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ต่างได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน


เช่นเดียวกับนายปานปรีย์ พหิทานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่างยืนยันที่จะเร่งฟื้นความเชื่อมั่นของไทยต่อประชาคมโลก รวมถึงการแก้ปัญหาชายแดนไทย-เมียนมา ที่จะเดินตามแนวทางของอาเซียน โดยนายปานปรีย์ จะร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ UNGA กับนายกรัฐมนตรีระหว่างวันที่ 18-23 กันยายนนี้ด้วย