เลือกตั้งและการเมือง

'อุ๊งอิ๊ง' โผล่เยี่ยม 'ทักษิณ' ปัดตอบสื่อ ขอแถลงพรุ่งนี้ ทนายเผยแพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด

28 ส.ค. 2566

64 views

วันนี้เป็นวันแรกที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ญาติและคนสนิทที่ คุณทักษิณ ระบุรายชื่อไว้ 10 รายชื่อ สามารถเข้าเยี่ยมได้ ประเดิมด้วยลูกสาวคนเล็ก "อุ๊งอิ๊ง" ที่มาเยี่ยมเป็นคนแรก



เกือบบ่าย 2 โมง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางลงมาจากการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาปักหลักรอ บอกเพียงสั้นๆ ว่า "พรุ่งนี้จะขอให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับอาการป่วยของคุณทักษิณ" เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กำลังใจของคุณทักษิณดีขึ้นหรือไม่ เธอก็ยิ้มรับก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วจะขึ้นรถตู้ออกไปทันที



ด้าน ทนายวิญญัติ เปิดเผยว่า อาการของคุณทักษิณยังน่าเป็นห่วง ต้องให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ตอนที่เข้าเยี่ยมก็ไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ หรือมีเรื่องกังวลใจอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คุณทักษิณยังใส่เครื่องช่วยหายใจหรือไม่ นายวิญญัติไม่ตอบประเด็นนี้ บอกแค่ว่ารายละเอียดต่าง ๆ ขอไปให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทยพรุ่งนี้ (29 ส.ค.)



มีรายงานว่าคุณอุ๊งอิ๊ง เดินทางมาด้วยรถตู้เบนซ์สีเทามาถึงที่โรงพยาบาลตำรวจราวเที่ยงครึ่ง และให้คนขับรถจอดที่ชั้นใต้ดินแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้น 14 ทันที ทำให้สื่อมวลชนที่มาปักหลักรอที่ด้านหน้าอาคารไม่มีใครได้ภาพ แต่กว่าคุณอุ๊งอิ๊งจะเข้าเยี่ยมได้ก็ คือ บ่ายโมงตรง เพราะติดช่วงพักเที่ยง โดยใช้เวลาเยี่ยมประมาณ 40 นาที ก่อนจะเดินทางกลับ แต่ขอกลับยอมลงมาให้สื่อบันทึกภาพ ซึ่งนอกจากคุณอุ๊งอิ๊งและทนายวิญญัติแล้ว ทราบว่า ทนายความ 3 คน เข้าเยี่ยมเพื่อแนะนำและให้คำปรึกษาทางคดีครบทั้ง 3 คน



ทีมข่าวอาชญากรรมเดินตรวจสอบโดยรอบบริเวณอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษาพบว่า ลานจอดรถชั้นใต้ดินมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าระวังและคัดกรองรถที่จะเข้ามาในอาคารอย่างเข้มงวด เชื่อว่ารถคนสนิทและญาติของคุณทักษิณน่าจะเข้ามาจอดที่ชั้นนี้แล้วขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 14 ทันที เพื่อหลบเลี่ยงการเจอหน้าสื่อมวลชนที่มาปักหลักรอ



สำหรับช่วงเวลาที่เปิดให้เยี่ยมคุณทักษิณ นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กำหนดให้มีการเยี่ยมได้ 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 11.00 - 13.00 น. ส่วนช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 17.00 - 20.00 น.



สำหรับ 10 รายชื่อ ที่คุณทักษิณระบุไว้ว่าเข้าเยี่ยมได้ คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค ลูกชายคนโตของคุณทักษิณ และภรรยา นางสาว พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือ เอม กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม และสามี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยสามี และลูกสาว ทีมทนายความ 3 คน



พรรคไทยภักดี เดินหน้า 2 เรื่องของนายทักษิณพร้อมกันในวันเดียว คือ ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดเร่งรัดคดี ม.112 ที่เคยถูกกองทัพบกแจ้งความเมื่อปี 2558 ส่วนอีกเรื่องคือทำหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์คัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ



นายทศพล พรหมเกตุ รองหัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมกับตัวแทนพรรค ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ให้ตรวจสอบคดีของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ



โดยระบุว่านายทักษิณยังมีคดีความผิดตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ กองทัพบก ยื่นฟ้องไว้เมื่อปี 2558 และคดียังค้างอยู่ในชั้นอัยการ



โดยเป็นประเด็นที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ จากประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 9 พฤศจิกายน 2552 ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองและการยึดอำนาจการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งมีผลกระทบต่อกองทัพบก และคดีนี้ศาลรับฟ้อง ไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2558 โดยคดีนี้มีอายุความ 15 ปี



นายทศพล เปิดเผยว่าคดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ และอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ตัวผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ต่างประเทศ อีกทั้งตำรวจปอท. ได้ขอศาลออกหมายจับไว้แล้ว



แต่นายทักษิณได้มอบหมายให้ทนายความยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดทบทวนความเห็นดังกล่าว จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี และอยากให้อัยการสูงสุดยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกคน



ในเวลาไล่เลี่ยกันตัวแทนพรรคไทยภักดี ได้เดินทางไปที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ



โดยให้เห็นผลในประเด็นสำคัญ 2 ข้อ คือข้อแรกนายทักษิณต้องคดีทุจริตคอรัปชั่นในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 4 คดี เป็นการทำลายหลักธรรมาภิบาลของประเทศ



และยังมีพฤติกรรมหลบหนีไปต่างประเทศไม่เคารพคำพิภากษาของศาล การขอพระราชทานอภัยโทษจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว



ข้อที่สองจะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐของประเทศ ทำให้เกิดวาทกรรมคุกมีไว้ขังคนจน



ประมาณเที่ยง 20 นาที กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์ นำโดย ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ ซึ่งเป็นคู่ความคดีฟ้องร้องกับบริษัท SC Asset พร้อมคุณแม่ที่นั่งวีลแชร์มายืนถือป้ายประท้วง "คัดค้านการขออภัยโทษทักษิณชินวัตร" พร้อมบอกว่า ไม่เห็นด้วยที่กรมราชทัณฑ์ย้ายคุณทักษิณ มารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วอยู่ห้องวีวีไอพี โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่เป็นอภิสิทธิ์ชนเกินไปและเลือกปฏิบัติต่างจากนักโทษคนอื่น ๆ ทั้งที่คุณทักษิณต้องโทษคดีทุจริตซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมาก การให้สิทธิ์คุณทักษิณแบบนี้มองว่าเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศ และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงอยากเรียกร้องให้ทางกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ มีความชัดเจนในเรื่องการนำตัวคุณทักษิณ กลับไปต้องโทษที่เรือนจำเช่นเดิม พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อเพื่อคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของคุณทักษิณอีกด้วย



สำหรับครอบครัวรัตนพันธ์ เคยออกมาร้องเรียนว่าถูกบริษัท SC Asset คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด มหาชน ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการรวบรวมที่ดินบริเวณถนนรัชดา-รามอินทราเพื่อเสนอขาย เนื้อที่กว่า 34 ไร่ ทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ต้องเสียบ้าน ที่ดิน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และต่อสู้คดีมานานกว่า 3 ปี จนศาลมีคำสั่งให้บริษัท SC Asset ต้องชดใช้เงินกว่า 1,503 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News