เลือกตั้งและการเมือง
ไอลอว์ ล่ารายชื่อชงประชามติแก้รธน. 3 วัน ทะลุแสน - โพลชี้ 'ก้าวไกล' ความนิยมพุ่ง
26 ส.ค. 2566
130 views
ความคืบหน้าหลังจากเพจ iLaw เปิดให้ประชาชนลงชื่อ เสนอประชามติเเก้ไขรัฐธรรมนูญ ล่าสุด ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบจำนวนตัวเลขล่าสุด พบมีประชาชนร่วมลงชื่อเเล้วมากกว่า 1 เเสน 1 หมื่น 3 พันรายชื่อ เเม้ทางเพจจะประกาศปิดยอดไปเเล้ว เเต่ก็ยังมีเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดผลโพลคะแนนนิยมหลังตั้งรัฐบาล พบว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมลดลง ส่วนพรรคที่คะเเนนนิยมสูงสุด คือพรรคก้าวไกล
เข้าสู่วันที่ 3 หลัง iLaw ประกาศเปิดล่ารายชื่อประชาชน เสนอประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนร่วมลงชื่อ เเล้วไม่น้อยกว่า 113,912 รายชื่อ โดยจำนวนนี้ มาจากจากกลุ่มอาสาสมัครที่ออกไปตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อ ซึ่งจนถึงขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง เพราะยังไม่ได้รวมรายชื่อที่ส่งมาทางไปรษณี
เพจ iLaw ได้โพสต์ข้อความ "ขอบคุณและแสดงเคารพในความพยายามของทุกคน ที่ใช้เวลาเพียง 3 วัน ในการรวมชื่อหลักแสน ขอย้ำว่า ความสำเร็จนี้จะเกิดไม่ได้ถ้าขาดทุกคน ขอบคุณจากใจจริงๆ"
ก่อนหน้านี้ iLaw อธิบายว่า ในกิจกรรมรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อเสนอคำถามประชามติ "เขียนใหม่ทั้งฉบับ เลือกตั้ง 100%" หลังรวบรวมรายชื่อได้ครบ 50,000 เเล้ว ตาม พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 9 เเต่ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กลับเเจ้งในวันที่ 22 สิงหาคม บอกว่า ประชาชนไม่สามารถลงชื่อทางออนไลน์ได้ ทำให้กว่า 4 หมื่นรายชื่อที่ลงชื่อกันมาเเล้วต้องเสียไป
นอกจากจะลงชื่อออนไลน์ไม่ได้ ทุกคนทั้ง 5 หมื่นรายชื่อ จะต้องลงชื่อทางกระดาษเท่านั้น โดยทาง กกต.ยังเเจ้งว่า เมื่อนำเอกสารไปยื่นก็ไม่สามารถยื่นเป็นกระดาษได้ เเต่ต้องสเเกนเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เเละนำข้อมูลทั้งหมดมากรอกให้เป็นไฟล์ Excel หรือไฟล์ Doc ซึ่ง iLaw มองว่า "เป็นการเพิ่มขั้นตอนที่ไม่จำเป็นอย่างมาก เเละเป็นภาระเเก่ประชาชนเกินความจำเป็น" โดย iLaw ได้ทำหนังสือโต้เเย้งการตีความกฏหมายไปยังสำนักงาน กกต.เเล้ว เพื่อขอให้กลับคำวินิจฉัย เเละนับรายชื่อของประชาชนที่ส่งมาทางสื่้ออิเล็กทรอสิกส์
นอกจากการล่ารายชื่อ เสนอประชามติเเก้ไขรัฐธรรมนูญ ล่าสุด มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับดีโหวต (D-vote) เปิดเผยผลการวัดคะแนนนิยมหลังการเลือกตั้ง เพื่อประเมินความพึงพอใจ และการตอบสนองความคาดหวังของประชาชน จากแต่ละพรรคการเมือง โดยตั้งประเด็นคำถามว่า "หากมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งในวันนี้ คุณจะเลือกพรรคใด"
ผลปรากฏว่า การสำรวจระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม โดยวัดจากประชาชนที่มีอายุตั้งเเต่ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกช่วงอายุ ภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,253 ตัวอย่าง
ค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.0 พบว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้งสูงสุด 6 อันดับแรก มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของคะแนนนิยมเฉลี่ย จากเพิ่มขึ้นไปน้อยลงตามลำดับดังนี้
1.พรรคก้าวไกล มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 62.38
2.พรรคภูมิใจไทย คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.48
3.พรรครวมไทยสร้างชาติ คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 0.81
4.พรรคพลังประชารัฐ คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 6
5.พรรคประชาธิปัตย์ คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 10
6.พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยมลดลงมากที่สุด คือร้อยละ 62.25
การที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของคะแนนนิยมเฉลี่ยมากที่สุดนั้น ผลโพลชี้ว่า เกิดจากการที่ได้มีโอกาสสลับกันเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และเป็นที่สนใจของประชาชนจำนวนมาก โดยคะแนนนิยมที่ลดลงของพรรคเพื่อไทยร้อยละ 51.32 ได้ไหลไปหาพรรคก้าวไกล ในขณะที่ร้อยละ 10.92 ได้ไหลไปหาพรรคอื่น ๆ
ประเด็นต่อมาถามว่า "คุณคิดว่าการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เกิดจากความตั้งใจตั้งแต่แรกหรือไม่" พบว่า ร้อยละ 58.79 ระบุว่า เกิดจากความตั้งใจตั้งแต่แรก เป็นการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วระหว่างเพื่อไทยและขั้วรัฐบาลเดิม / ร้อยละ 25.20 ระบุว่า ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจตั้งแต่แรก เมื่อการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคถึงทางตัน จึงต้องปรับแผนด้วยการข้ามขั้ว และร้อยละ 16.02 ระบุว่า ไม่รู้ /ไม่แน่ใจ
เมื่อถามต่อว่า "นโยบายรัฐบาลเพื่อไทยข้อใด ที่คุณอยากให้ทำสำเร็จมากที่สุด 3 อันดับแรก" พบว่าร้อยละ 40.41 ระบุว่า ค่าแรง 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท / ร้อยละ 39.95 ระบุว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท / ร้อยละ 37.47 อยากให้ปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า / ร้อยละ 32.51 อยากให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่ต่อต้านการรัฐประหาร และร้อยละ 23.70 ระบุว่า ปฏิรูประบบราชการและทหาร
สำหรับประเด็น ท่านเห็นชอบหรือไม่? ว่าประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พบว่า ร้อยละ 75.53 ระบุว่า เห็นชอบ ควรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ / ร้อยละ 12.14 ระบุว่าไม่เห็นชอบ ควรแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ร้อยละ 3.85 ระบุว่า ไม่เห็นชอบ ไม่ควรแก้รัฐธรรมนูญเลย
ผู้ตอบแบบสอบถาม ยังเสนอแนะเพิ่มเติมถึงสิ่งที่ควรปรับปรุงในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เช่น อำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ควรเป็นของ ส.ส. ที่มาจากประชาชนโดยตรง โดยไม่มีอำนาจของ ส.ว. เเละที่มาของ ส.ว. ก็ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
แท็กที่เกี่ยวข้อง